ศบค.เผยสถานการณ์โควิดตัวเลขยังทรงๆ ลดลงแล้ว แต่ขอการ์ดอย่าตก อาจขึ้นแตะ 3 หมื่นต่อวันได้ ด้าน “กรุงเทพฯ” พบ 5 เขต ผู้ติดเชื้อเกินหลัก 100 เตือนภาพคนแออัดรอเข้าห้าง หวั่นทำยอดพุ่งอีก
วันนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า ทิศทางในขณะนี้อาจทำให้เราสบายใจได้บ้าง ในช่วงเดือนก.ค.และปลายเดือน ส.ค.เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างหนัก แต่เราก็ผ่านช่วงนั้นมา ซึ่งจะเห็นว่าภาพของกรุงเทพฯและต่างจังหวัดคล้ายกัน และสะท้อนภาพทั้งประเทศ ซึ่งมีการเปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กับตัวเลขคาดการณ์จากมาตรการล็อกดาวน์ภาพรวมทั้งประเทศ โดยวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ณ ตอนนี้ถ้าเราผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ประมาณถึงวันที่ 14 ก.ย.ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุม ศบค.ในปลายสัปดาห์นี้ ว่า จะคงมาตรการกันต่อหรือไม่ แต่ต้องบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นผลจากการทำงานอย่างหนักของภาคประชาชน และผู้ประกอบการที่เสียสละปิดร้านเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้เรามีการปรับมาตรการสามารถซื้อของในห้างสรรพสินค้าได้ แต่ขอให้ดูแลตัวเอง ทั้งนี้ ตามการคาดการณ์จะมีแรงเฉื่อยหรือแรงควบคุม ประมาณปลายเดือนนี้ ไปถึงต้นเดือน ต.ค.จะมีคนไข้ที่ป่วยเพิ่มขึ้นกว่านี้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว และหากคุมไม่ดีจะไปแตะที่ 30,000 ต่อวันได้เหมือนกัน ทั้งนี้ ทุกจังหวะทุกก้าวเราใช้วิทยาศาสตร์ในการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นการคาดการณ์ของทีมกระทรวงสาธารณสุข จึงขอความร่วมมือทุกท่านการ์ดอย่าตกในทุกกิจกรรมที่ได้ทำ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 10 อันดับแรก ข้อมูล ณ วันที่ 6 ก.ย.พบว่า กรุงเทพมหานคร 3,610 ราย สมุทรปราการ 386 ราย สมุทรสาคร 711 ราย ชลบุรี 703 ราย เพชรบูรณ์ 488 ราย ระยอง 464 ราย นนทบุรี 300 ราย พระนครศรีอยุธยา 294 ราย นครราชสีมา 278 ราย และ ราชบุรี 267 ราย ทั้งนี้ ในพื้นที่แต่ละจังหวัดไม่ได้แตกต่างกัน ยังทรงๆ แต่ตัวเลขค่อนข้างที่จะลดลงแล้ว ส่วนกรุงเทพฯผู้เสียชีวิตลดลงมาเหลือ 24 ราย แต่ยังพบกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง รวมแล้วทั้งหมด 92 ราย และมีเด็กอายุ 13 ปี เสียชีวิต ที่จังหวัดตาก ซึ่งมีโรคประจำตัวด้วย และหากเปรียบเทียบจำนวนผู้เสียชีวิตกับตัวเลขคาดการณ์จากมาตรการล็อกดาวน์ภาพรวมของประเทศ ซึ่งได้มีการพัฒนาข้อมูลกันมาเป็นปี โดยประมาณเดือน ต.ค.จะพุ่งขึ้นมาอีก แต่แนวโน้มพุ่งไม่สูง เพราะเราได้ให้วัคซีนกับกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กรุงเทพฯนำเสนอจำนวนผู้ป่วย 3,610 ราย ว่า มาจากไหน แบ่งเป็น 50 เขต โดยมี 5 เขตแรก มีตัวเลขเกิน 100 ประกอบด้วย หลักสี่ 135 ราย จอมทอง 132 ราย บางกะปิ 125 บางขุนเทียน 101 ราย บางคอแหลม 101 ราย หนองแขม 96 ราย ประเวศ 92 ราย บางบอน 90 ราย นนทบุรี 89 ราย และ บางแค 89 ราย จึงขอฝากประชาชนที่อยู่ใน กทม.ดูแลกิจการและกิจกรรมของตัวเองให้ดี เพราะในขณะนี้การเปิดกิจการ และกิจกรรมเราเห็นภาพการแออัด มีคนเข้าไปยังห้างสรรพสินค้า รอเข้าตั้งแต่เช้าเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ และเชื้อโรคก็ชอบความแออัด จึงอาจจะทำให้เพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อขึ้นได้ และวันนี้เราอาจจะยังไม่เห็นการติดเชื้อ แต่จะไปเห็นผลในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า