วันนี้(1 ก.ย.)นายธวเดช ภาจิตรภิรมณ์ หัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ กล่าวว่า ภาพที่สื่อมวลชนนำเสนอว่ามีบรรดาสมาชิกพรรคเล็กล้อมเก้าอี้พูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าช่วงนี้เป็นช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมันเกิดขึ้นในช่วงที่ความนิยมของรัฐบาลน่าจะถดถอยที่สุดในรอบ 7 ปี มีเสียงก่นด่าจากรอบทิศ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นแกนกลางของอำนาจ แน่นอนว่ามือที่ยกคงโหวตผ่านได้ไม่ยาก แต่จะน่าเกลียดไม่น้อย หากครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้รับเสียงความไว้วางใจน้อยกว่ารัฐมนตรีที่เหลือ ยิ่งถ้าอยู่ในระดับบ๊วย ถึงอยู่ได้แต่ก็คงน่าอายที่จะอยู่ต่อ
“เรื่องแบบนี้ยอมให้เกิดไม่ได้ นั่นก็เลยร้อนถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือมือประสานสิบทิศ ที่ช่วงนี้จะดูจะอี๋อ๋อกับบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยเป็นพิเศษและมีภาพที่ปรากฏออกมาบนหน้าสื่อ คำชี้แจงที่ออกมาบอกว่าแค่ไปคุยกันเรื่องฟ้าทะลายโจร แต่ถามว่าจะส่งผลถึงเสียงโหวตในการอภิปรายไหม คำตอบที่ออกมาก็ยังอยู่ในเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ ประมาณว่าขอดูจากเนื้อหาการอภิปรายให้จบก่อน ส่วนจะลงคะแนนทิศทางไปทางไหน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้”นายธวเดช กล่าว
นายธวเดช กล่าวต่อว่า การเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กในบ้านเราก็มักเป็นแบบนี้ บางพรรคอาจบอกอุดมการณ์ของตัวเองว่ารักป่ามากมาย แต่ทวงที่จากนายทุนหรือจากบ้างพักตุลาการก็ยังไม่เห็นจะได้สักหลัง แต่กับคนเล็กคนน้อยก็ชาติพันธุ์ที่บ้านเขาอยู่ในป่ามานานนั้นกลับดูห้าวจริงห้าวจัง หรืออีกหลายพรรคกว่าจะมีตัวตน มีเสียงพูดขึ้นมาให้คนได้ยินบ้างก็ต้องช่วงที่การยกมือมีราคาน่าสนใจแบบนี้ล่ะครับ เอาเป็นว่า พรรคการเมืองที่มีในสภาในตอนนี้จะเป็นแบบไหนก็ว่ากันไป หรือในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงกติกาการเลือกตั้งที่ทำให้เสียงของพรรคเล็กพรรคน้อยหายไปเพื่อแก้ปัญหาแบบนี้ก็ตาม แต่ตนเชื่อว่า ทุกการเกิดขึ้นของพรรคการเมือง ขอแค่เราซื่อสัตย์กับตัวเองและประชาชน อนาคตของเราจะอยู่ได้ยาว เสียงของเราจะเปล่งขึ้นได้อย่างมีศักดิ์ศรีไม่อายใคร
“กกต. ได้ประกาศรับจดทะเบียนจัดตั้ง พรรคแนวทางใหม่ เป็นพรรคการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเป็นทางการ เราไม่อายที่จะบอกว่าเราเป็นพรรคเล็กครับ แต่สิ่งที่ผมจะยืนยันกับทุกคนไว้ตรงนี้ก็คือ ถึงแม้ว่าพรรคเราอาจจะเล็กเชิงกายภาพและไม่มีต้นทุนที่สูงเหมือนใคร แต่พวกเราก็รวมตัวกันจากผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องเดียวกันนั่นคืออยากเห็นสังคมและการเมืองของประเทศนี้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางดีขึ้น นี่จึงทำให้หัวใจของพวกเราไม่เล็กตามและหมั่นเติมเต็มพลังใจให้แก่กันและกันเสมอ พวกเราพร้อมที่จะเดินไปเส้นตรงและซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ ‘แนวทางใหม่’ ไม่เป็นพรรคการเมืองเฉพาะกิจในแบบที่ประชาชนต้องดูถูกดูแคลนว่าแค่ตั้งขึ้นเพื่อหาประโยชน์เท่านั้น พวกเราจึงพร้อมแล้วที่จะให้ประชาชนพิสูจน์หัวใจของพวกเราเพื่อเดินหน้าบนเส้นทางการเมืองในระยะยาวต่อไป”นายธวเดช กล่าว