“ธนพร สมศรี” เลขาธิการ สกสค. ระบุผลงานชัดลดหนี้-โปร่งใส มั่นใจประเมินผ่านฉลุย แต่รับมีกระแสอาจตกเก้าอี้จริง เผยบัตรสนเท่ห์ว่อน มีแต่เรื่องไม่เกี่ยวกับงาน แปลกใจเปลี่ยน กก.ยกชุด-“บิ๊ก ศธ.” ให้ข่าวถี่ ยังเชื่อ กก.ชุดใหม่มีวุฒิภาวะ-คุณธรรม
นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า นายธนพรอาจไม่ผ่านการประเมินผลงาน และจะถูกยกเลิกสัญญาจ้างว่า การประเมินผลงานเลขาธิการ สกสค.เป็นไปตามระเบียบของ สกสค. ที่กำหนดประเมินผลงานทุก 6 เดือนว่าเป็นไปตามแผนงานและพันธกิจหรือไม่ ซึ่งตนรับทราบอยู่แล้วตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง เลขาธิการ สกสค. โดยครั้งนี้จะครบรอบประเมินในช่วงเดือน ก.ย.64 นี้ อย่างไรก็ตามในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.มากว่า 1 ปี ด้วยนโยบายโปร่งใส ทันสมัย ใส่ใจบริการ มีความมั่นใจการบริหารงานว่า เป็นไปตามแผนงานและยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จนสามารถลดการขาดทุนสะสมขององค์กร โดยได้เริ่มชำระหนี้ของ สกสค.ไปแล้วได้กว่า 700 ล้านบาท ตลอดจนไม่มีประเด็นเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นแม้แต่เรื่องเดียว โดยล่าสุดผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ 2564 ของ สกสค. ได้รับคะแนน 92.54 ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ได้ 90.42 คะแนน ส่วนกรณีการสรรหา ผอ.สกสค.จังหวัด ที่เคยเป็นประเด็นนั้น ก็มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งปรากฎว่า ไม่พบความผิดปกติ และยุติการตรวจสอบไปแล้ว ขณะที่ข้อร้องเรียนจำนวนมากที่มีการอ้างถึงนั้นก็เป็นเพียงบัตรสนเท่ห์ที่ไม่ลงชื่อ อีกทั้งยังเป็นประเด็นที่แทบไม่เกี่ยวข้องกับการอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ สกสค. แต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าจะผ่านการประเมินผลงานอย่างไม่มีปัญหา
“หากกระบวนการประเมินผลงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และความเป็นธรรม มีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่ให้ผมผ่านการประเมินผลงานนั้น ผมก็น้อมรับ แต่หากมีการอ้างเหตุร้องเรียนที่ไม่มีที่มาที่ไป และยังไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อยกเลิกจ้างผม ผมก็จำเป็นต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม โดยจะไปฟ้องศาลปกครองต่อไป” นายธนพร ระบุ.
นายธนพร กล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ถึงสาเหตุที่คณะกรรมการประเมินผลงานฯชุดเก่าได้ลาออกยกชุด โดยไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด และมีการตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานฯชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงให้ข่าวในทำนองว่า ตนอาจจะไม่ผ่านการประเมินผลงานบ่อยครั้ง ซึ่งอาจเป็นที่มาของกระแสข่าวหนาหูว่า จะมีการยกเลิกสัญญาจ้างตน จนมีผู้สอบถาม และแสดงความเป็นห่วงตนเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ก็เชื่อว่าคณะกรรมการประเมินผลงานชุดใหม่จะมีวุฒิภาวะและคุณธรรมเพียงพอในการประเมินผลงานของตน.