โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯห่วงสถานการณ์น้ำท่วม ให้หน่วยงาน-ฝ่ายมั่นคงเร่งช่วย ปชช. ยืนยัน รบ.พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยันปีนี้ไฟเซอร์เข้ามา 30 ล้านโดส คดี “ผกก.โจ้” ดำเนินการตาม กม. เตือนชุมนุมอย่าผิด กม.- ละเมิดสิทธิผู้อื่น
วันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 13.30 น. คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามที่สื่อมวลชนฝากถึงนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม เตรียมมาตรการรองรับไว้เพื่อให้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด รวมถึงฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ให้การสนับสนุนทั้งในด้านของบุคลากรและเครื่องมือด้วยเช่นกัน สำหรับประเด็นคำถามเกี่ยวกับความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนของประเทศไทยว่าจะมีการนำเข้า Pfizer เข้ามาในช่วงเดือนกันยายนนั้น ศบค. ได้รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประมาณการจัดหาวัคซีนของไทยในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2564 จะมีการนำเข้าวัคซีน Pfizer ประมาณ 30 ล้านโดส
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังตอบคำถามกรณีการดำเนินคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ยืนยันว่า การดำเนินคดีเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ขาดจิตสำนึก จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้กำชับให้มีลงโทษทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิดมาโดยตลอด ในส่วนของการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ นั้น ขณะนี้พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ..... นำเสนอในสภาฯ ไปแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการร่วมของรัฐสภา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังตอบข้อซักถามถึงการประชุมรัฐสภา ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่จะเริ่มขึ้นวันแรกในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 นี้ ว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงและเจตนาที่บริสุทธิ์ ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทำงานในทุกมิติ ในด้านการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ดำเนินการตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข และร่วมหารือกับทุกฝ่าย รวมถึงการดูแบบอย่างจากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมโรค ส่วนเรื่องเสียงโหวตในสภาฯ นั้น เป็นไปตามกระบวนการตามประชาธิปไตยและเป็นไปตามกลไกของรัฐสภา
ในตอนท้าย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังฝากถึงการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 และ 3 กันยายน 2564 ว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้การดูแลและเตรียมมาตรการรองรับไว้ โดยย้ำให้มีการปฏิบัติตามหลักสากล ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ขอให้ระมัดระวัง อย่ากระทำผิดกฎหมาย แม้ว่าการชุมนุมเป็นกระบวนการตามประชาธิปไตยแต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น