xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ” เผย 7-8 ปี “บิ๊กตู่” ใช้อำนาจพิเศษพยายามปฏิรูป ตร.แต่กลับยิ่งห่างไกลเป้าหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ส.ว.คำนูณ” เผย 7-8 ปีที่ผ่านมา “พล.อ.ประยุทธ์” พยายามใช้อำนาจพิเศษปฏิรูปตำรวจ แต่ก็ยังไม่เป็นการปฏิรูปอย่างแท้จริง มิหนำซ้ำ ยังทำให้เป้าหมายการปฏิรูปตำรวจห่างไกลออกไป เมื่อมีการปรับแก้ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ฉบับ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ก่อนส่งเข้าสภาฯ ทำให้ระบบการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจยังคงเดิมเหมือนที่เคยเป็นมา

วันนี้ (28 ส.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Kamnoon Sidhisamarn เกี่ยวกับความคืบหน้าการปฏิรูปตำรวจ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลยเกี่ยวกับตำรวจมาในรอบ 7 หรือ 8 ปีที่ผ่านมา แต่ได้ทำมากพอสมควรทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำโดยอำนาจพิเศษ กล่าวคือ ได้มีการใช้อำนาจพิเศษสั่งการในรูปแบบประกาศ คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.รวม 5 ครั้ง แยกเป็นประกาศ 2 ครั้ง คำสั่ง 3 ครั้ง และยังได้ใช้อำนาจของคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติว่าด้วยการปฏิรูปประเทศของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 260 ในรูปแบบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอีก 1 ครั้ง อีก 2 ครั้งที่เหลือเป็นมติคณะรัฐมนตรีตามปกติ
 
สรุปรวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง ในรอบ 8 ปีระหว่างปี 2557-2564 เพียงแต่ทั้ง 8 ครั้งนี้ ยังไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็น ‘การปฏิรูปตำรวจ’ ทั้งในความหมายที่เป็นจริง ในความหมายที่ประชาชนคาดหวัง และในความหมายที่ตรงกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ 2560
โดยเฉพาะในครั้งที่ 5 และ 6 นี่เจ็บปวดมาก เพราะส่งผลให้เป้าหมายของการปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญ 2560 ห่างไกลออกไปลิบลิ่วทีเดียว เรามาไล่เรียงกันดู
 
ครั้งที่ 1 - ประกาศ คสช.ที่ 88/2557 แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ในประเด็นองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยเพิ่มปลัดกระทรวงกลาโหมเข้ามาเป็นกรรมการด้วย รวมทั้งแก้ไขให้ผบ.ตร.เป็นผู้เสนอรายชื่อผบ.ตร.คนใหม่ต่อกตช.แทนที่นายกรัฐมนตรี
 
ครั้งที่ 2 - ประกาศคสช.ที่ 111/2557 แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯในประเด็นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น โดยเป็นการปรับถ้อยคำให้บทบาทของท้องถิ่นมีน้ำหนักเบาลง
 
ครั้งที่ 3 - ประกาศ คสช.ที่ 115/2557 แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เปลี่ยนอำนาจชี้ขาดคดีในกรณีมีความเห็นต่างระหว่างตำรวจกับอัยการในต่างจังหวัดจากผู้ว่าราชการจังหวัดไปเป็นผู้บัญชาการภาค ทำให้เสียดุลในการตรวจสอบและถ่วงดุลในต่างจังหวัด
 
ครั้งที่ 4 - คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 7/2559 แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ให้ยกเลิกตำแหน่งพนักงานสอบสวน และเงินประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวน โดยให้ตำแหน่งพนักงานสอบสวนกลับไปลื่นไหลไปสู่ตำแหน่งอื่นๆ ได้ไม่ต้องมีตำแหน่งเฉพาะเป็นแท่งของตัวเอง
 
ครั้งที่ 5 - คำสั่ง คสช.ที่ 21/2559 แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ให้อำนาจ ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการลงไปจนถึงผู้กำกับการ โดยสามารถกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งได้เอง
 
ครั้งที่ 6 - ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2561
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/181/T1.PDF

ครั้งที่ 7 - คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 20/2561 เรื่องมาตรการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความต่อเนื่อง
https://th.wikisource.org/wiki/คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ_ที่_20/2561

ครั้งที่ 8, 9 - คณะรัฐมนตรีมีมติในเดือนกันยายน 2563 และมกราคม 2564 เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับแก้จากร่างของคณะกรรมการชุดท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ และนำเสนอต่อรัฐสภาจนผ่านวาระ 1
 
ครั้งที่ 1, 2, 4 และ 5 เป็นการแก้ไขที่ไม่ได้มีความหมายในเชิงปฏิรูปมากนัก บางมุมมองอาจเห็นเป็นการสวนทางการปฏิรูปด้วยซ้ำ
 
ในขณะที่ครั้งที่ 3 เป็นการแก้ไขใหญ่ที่ทำให้ระบบตรวจสอบการสั่งคดีในต่างจังหวัดเสียหาย เป็นการเพิ่มอำนาจให้ตำรวจครั้งใหญ่
 
ครั้งที่ 5 และ 6 ส่งผลให้เป้าหมายของการปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญ 2560 ห่างไกลออกไปลิบลิ่ว รายละเอียดเรื่องนี้ถ้าจะเล่าให้สะเด็ดน้ำคงยาว เอาเป็นว่าผมได้เคยเขียนโพสต์ ณ ที่นี้เมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว และได้เคยอภิปรายในวุฒิสภาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ท่านที่สนใจจริงๆ เปิดอ่านและฟังกันได้ตามลิงก์ข้างล่าง
https://www.facebook.com/100001018909881/posts/3257209870989611/
https://youtu.be/k0boAhjLUJY

เมื่อบทเร่งรัดกึ่งลงโทษตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไร้ผลด้วยการใช้อำนาจพิเศษดำเนินการเรื่องตำรวจครั้งที่ 5 และ 6 เมื่อ ครม.ส่งร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ที่ปรับแก้จากร่างฉบับอาจารย์ มีชัย ฤชุพันธุ์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้ามาสู่ที่ประชุมรัฐสภา ความหวังจึงเหลือริบหรี่เลือนรางมาก
 
เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจยังคงดำเนินไปตามที่เคยเป็นมา
 
และการแต่งตั้งโยกย้ายในร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ฉบับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับแก้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงในวาระสำคัญ
 
สรุปคือผลเหมือนกันทั้งขึ้นทั้งล่อง
 
กฎหมายใหม่ไม่ผ่าน การแต่งตั้งโยกย้ายก็ดำเนินไปตามเดิม ไม่เปลี่ยน ไม่กระทบ ใครจะร้องว่าขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ เพราะมีคำสั่งหัวหน้าคสช.รับรองไว้แล้วว่าถูกต้อง
 
กฎหมายใหม่ถ้าผ่านออกมาตามร่างที่ผ่านวาระ 1 สาระก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก
 
“แม้จะมีกรรมาธิการบางคน อย่างน้อยก็ผม และท่านอาจารย์วิชา มหาคุณ จะเตรียมการเสนอความเห็นให้แก้ไขนำระบบใหม่ที่เคยอยู่ในร่างพระราชบัญญัติฉบับอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ถูกวิสามัญฯ ไปกลับมาแทนที่ ก็ยังไม่รู้ว่าจะชนะในชั้นกรรมาธิการหรือชั้นรัฐสภาวาระ 2 หรือไม่
 
“และไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็ยังไม่อาจที่จะแก้ไขเยียวยาการใช้อำนาจพิเศษครั้งที่ 3 ได้ เพราะคณะรัฐมนตรียังไม่ได้เสนอขอแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเข้ามา รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีอาญา (ของตำรวจ) ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษชุดท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จัดทำขึ้นมาคู่กับร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมไปแล้ว รัฐบาลก็ไม่ได้เสนอต่อรัฐสภา” นายคำนูณ ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น