ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เชื่อมือ เชื่อแป้ง เมื่อ “มาดามแป้ง” รับภารกิจใหญ่ กู้ศรัทธาทีมชาติไทย
ได้รับเสียงตอบรับจากทั่วสารทิศโดยเฉพาะแฟนบอลทีมชาติไทย หลังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ให้มาทำหน้าที่ “ผู้จัดการทีม” ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ทั้งชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (U-23)
สิ่งที่แฟนบอลเห็นพ้องต้องกัน เชื่อมั่นและเชื่อแป้ง คงเป็นผลงานของ “มาดามแป้ง” ที่คลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอลมานานกว่า 15 ปี ซึ่งเคยสร้างชื่อพาทีมฟุตบอลหญิงไปบอลโลกมาแล้วถึง 2 สมัย
ขณะที่ สมาคมฯบอกเหตุผลถึงการมอบตำแหน่งสำคัญให้กับ “มาดามแป้ง” เพราะรู้ดีถึง ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการนำทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย และมีสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ “หัวใจที่รักในฟุตบอลไทย” ของมาดามแป้ง ที่พิสูจน์มาแล้ว ทั้งในระดับสโมสร และระดับทีมชาติ จึงมีความเหมาะสม และความพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วม และเติมเต็มการพัฒนาทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยให้ยิ่งใหญ่ และมีความก้าวหน้า เพื่อก้าวขึ้นเป็นทีมชั้นนำของเอเชีย รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมการแข่งขันในเวทีระดับโลกต่อไป
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ที่ผ่านมา สมาคมฯโดยเฉพาะในยุค “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายก บริหารผลงานทีมชาติไทยลุ่มๆ ดอนๆ โดนวิพากษ์วิจารณ์หนักว่ามองไม่เห็นอนาคต แต่การเข้ามารับตำแหน่ง “ผู้จัดการทีม” ของ “มาดามแป้ง” จึงถือว่า “บิ๊กอ๊อด” อาจจะลอยตัวขึ้น
ว่ากันว่า “บิ๊กอ๊อด” ที่แฟนๆ อยากให้ลงจากตำแหน่งนายก แอบโชคดีที่สามารถดึง “มาดามแป้ง” มาทำงานในห้วงเวลาวิกฤตศรัทธาได้ทัน
และแน่นอนว่า ภารกิจใหญ่ของ “นวลพรรณ” ที่รออยู่ข้างหน้า คือ การกอบกู้ศรัทธาจากผลงานทีมชาติไทยที่แฟนบอลคาดหวัง ซึ่งในการเปิดตัวเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ผู้จัดการทีมคนใหม่ แสดงให้เห็นถึง “ทัศนคติ” ที่เป็นบวกให้แฟนๆ ได้อุ่นใจในหลายเรื่อง
เรียกว่า เคลียร์กันตั้งแต่ต้นเลย ทั้งเรื่อง “การเมือง” ที่มีเสียงครหาทางโซเชียลฯ ว่า รับตำแหน่งเพราะจะลงเล่นการเมือง ใช่หรือไม่ “มาดามแป้ง” ก็พูดชัดว่า ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ทำฟุตบอลหญิง เรื่อยมาจนมาทำสโมสรการท่าเรือ แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่มีการเมืองและไม่เล่นแน่นอน
ขณะที่เรื่องเป็นตัวแทนกลุ่มทุนเข้ามาครอบสมาคมฟุตบอล “มาดามแป้ง” มองว่า ฟุตบอลเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้าง หากได้ทุนต่างๆ มาร่วมกันสนับสนุน ก็จะเป็นเรื่องดีต่อการพัฒนาวงการฟุตบอล
ยิ่งประเด็นที่มองกันว่า ผู้จัดการทีมจะเข้ามาแทรกแซงการบริหารจัดการทีม เรื่องนี้ “มาดามแป้ง” ขอให้ย้อนมองการทำงานของเธอตั้งแต่เข้ามาทำงานฟุตบอล สตาฟฟ์โค้ช ไปจนถึงเด็กเก็บฟุตบอล น่าจะให้คำตอบได้ ว่าเป็นอย่างไร
“มาดามแป้ง” ยอมรับว่า ลำพังเพียงแค่คนเดียวคงไม่สามารถจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ “ฟุตบอลทีมชาติไทย” เป็นของคนไทยทุกคน ดังนั้น จึงขอรับแรงใจและพลังบวกจากทุกภาคส่วน ทั้งสมาคม ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งแฟนบอลชาวไทย มาร่วมแรงร่วมใจกัน ทำให้ฟุตบอลไทยกลับมาผงาดอีกครั้ง เริ่มจากการเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน เพิ่มโอกาสในการเล่นระดับเอเชีย และระดับโลกต่อไปในอนาคต
มาถึงจุดนี้ ก็ต้องบอกว่า เส้นทางสายกีฬาของ “มาดามแป้ง” เดินมาด้วยความศรัทธา และความรักของตัวเธอเอง โดยมีภารกิจสำคัญที่ต้องฟันฝ่ารออยู่ข้างหน้า ท้าทายความรู้ความสามารถ ซึ่งก็ต้องให้กำลังใจกัน และติดตามผลงานด้วยความเชื่อถือกันต่อไป
แม้จะเป็นงานที่ยาก แต่หากทุกคนมั่นใจว่า “มาดามแป้ง” ทำได้ ก็เชื่อได้ว่า ทีมชาติไทยของเราทุกคนจะกลับมาอยู่ในจุดที่ทุกคนอยากเห็นอีกครั้ง!!
** “ลูกนัท” ไม่กั๊กแล้ว ขอฝากตัวเป็นศิษย์เจียมล้มเจ้า...อยากได้ 112 อย่างนี้ “พี่ศรี” จัดให้ !!
“ไฮโซลูกนัท” ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ลูกชายคนโตของ “กิตติ ธนากิจอำนวย” มหาเศรษฐีหมื่นล้าน อสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย ที่ก่อนหน้านี้ เป่านกหวีดไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อยู่กับ กปปส.ของลุงกำนัน จัดอยู่ในทำเนียบคนรุ่นใหม่ “กลุ่มนิวเดม” ของประชาธิปัตย์ ได้ลงสมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ แต่วืด … จากนั้นก็เงียบหายไป
มาเปิดตัวอีกครั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมานี้ บอกว่า ตัวเองเป็น “สลิ่มกลับใจ” ขอไล่ นายกฯประยุทธ์ ด้วยคน... พร้อมขอโทษ “ยิ่งลักษณ์และพี่โทนี่” ที่เมื่อก่อนหลงผิดไป ตอนนี้ตาสว่างแล้ว … พอประกาศออกมาอย่างนี้ “แสง” ก็ส่องมาที่ “ลูกนัท” ทันที รายการทีวีขอสัมภาษณ์ คึกคัก โซเชียลฯกลุ่มสามกีบดี๊ด๊า
จากนั้น 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ก็เข้าร่วมชุมนุมครั้งแรกใน #ม็อบ1สิงหา ที่ “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. คนเสื้อแดง ออกมาจัด “คาร์ม็อบ” ร่วมกับ “บก.ลายจุด” สมบัติ บุญงามอนงค์
คราวนี้ แสงที่ส่องมาที่ “ลูกนัท” ยิ่งเจิดจ้า... ทั้งคำยกยอปอปั้นจากม็อบคนรุ่นใหม่ “สายล้มเจ้า” ที่เห็นว่า เขาน่าจะเข้ามาเป็นตัวแทนแกนนำ “รุ่นกวิ้น” ที่ตอนนี้เข้าไปอยู่ในคุกกันหมด ...และดูเหมือนว่าจะถูกจริตของ “ลูกนัท” ที่กำลังหิวแสงอยู่พอดี
ศุกร์ที่ 13 สิงหา “ลูกนัท” เข้าร่วมกับ “ม็อบทะลุฟ้า” อีก คราวนี้ไปป่วนย่านสามเหลี่ยมดินแดง ขึ้นรถโชว์หราประหนึ่งเป็นผู้นำทัพ ไปปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งแนวสกัด แล้วก็โดนยิงเข้าที่บริเวณเหนือเบ้าตา เลือดอาบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า โดนกระสุนยางของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโดนลูกแก้ว หัวนอต จากหนังสติ๊ก ฝ่ายเดียวกันเอง
ช่วงนี้ในโซเชียลฯของกลุ่มสามกีบ แสดงความเห็นอกเห็นใจ “ไฮโซลูกนัท” กันล้นหลาม ขอให้หายไวไว... ตาไม่บอด
แต่สุดท้ายทางครอบครัว “ธนากิจอำนวย” ก็ออกมายืนยันว่า เหตุการณ์วันนั้น ทำให้ “ลูกนัท” ตาข้างขวาบอด และเตรียมฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ ทั้งทางอาญา และเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง
เมื่อวันอาทิตย์ 22 สิงหา ที่ผ่านมา “ลูกนัท” ก็ปิดตาขวา ใส่สูทสีเทาทับเชิ้ตขาว ที่คอคล้องกล้องถ่ายรูป มาร่วม “ม็อบทะลุฟ้า” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ราชดำเนิน สายสามกีบเห็นแล้วก็ถูกอกถูกใจในลุคนี้มาก ขณะที่คนทั่วไป และฝ่ายตรงข้าม ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ว่านี่เป็นเจตนาล้อเลียนเบื้องสูง...โซเชียลฯลุกเป็นไฟกับเรื่องนี้
แล้ว “ลูกนัท” ก็โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้ว่า ...
ความตลกคือ : สรุปว่า กูตั้งใจไปทำตัวเองตาบอด เพื่อที่จะใส่สูท ถือกล้อง ล้อเลียน..?
คือทำไม การใส่สูท ที่เป็นเครื่องแต่งกายปกติ ตามรสนิยม แต่ละคน+ ถือกล้องที่มีไว้ถ่ายรูป ถึง = ล้อเลียน ? มึงบ้าปะ? ชอบใส่สูทแล้วอยากจะถ่ายรูปพร้อมกันไม่ได้ งี้ หรอ ?
งั้นคือ ต่อไปนี้ประเทศนี้ ห้ามคนตา บอด 1 ข้างใส่สูทพร้อมถือกล้อง? ปัญญาอ่อนกันไปใหญ่
ปล่อยวางบ้างเถอะ ผมไม่ได้จะล้อเลียนใคร ผมแค่บังเอิญตาบอด 1 ข้าง แล้วชอบใส่สูท แล้ววันนี้จะถ่ายรูป เลยเอากล้องไป ขี้เกียจจะมาทะเลาะเป็นศัตรูกับใคร เอาเป็นว่า แล้วแต่จะสบายใจนะจ๊ะ สลิ่มทั้งหลาย
#แล้วงบประมาณสถาบันกษัตริย์ #สุดท้ายก็ไม่รู้ได้อภิปรายหรือเปล่า # ช่วงนี้ประเทศชาติรวยมากมั้ง ถลุงงบกันแบบไม่ต้องตรวจสอบกันเลยทีเดียว...
บอกไม่มีเจตนาล้อเลียน แต่สุดท้ายก็ไม่วาย ที่จะวนมาเฉี่ยวสถาบันฯ ...ซึ่งก็ไม่รู้ว่า การโพสต์ข้อความดังกล่าวนี้ ยังกลัวคนไม่เห็นตัวตนหรือแสงที่ส่องมายังไม่สว่างพอ “ลูกนัท” ก็เลยโพสต์ซ้ำ ไปว่า … อยากเรียน online กับ อาจารย์ Somsak Jeamteerasakul อะครับ ใครสะดวก ติดต่อให้ได้มั้ยครับ ไม่ทราบท่านจะสะดวกสอนผมมั้ย …
เป็นไง คราวนี้ชัดไหม ถึงกับประกาศให้รู้ทั่วกันว่า อยากฝากตัวเป็นศิษย์ “เจียมล้มเจ้า” ศาสดาของสามกีบ !!
เมื่อ “หิวแสง” แบบล้ำเส้นอย่างนี้ “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา บอกมาเลย เดี๋ยวจัดให้เต็มเซ็ต!!...ไปแน่ สน.ชนะสงคราม แจ้งความ “ลูกนัท” ที่แม้จะไม่ผิดที่ปิดตา ใส่สูท สะพายกล้อง แต่ผิดเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืนประกาศห้ามชุมนุมหรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคโควิดในพื้นที่ที่มีประกาศ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และผิดกฎหมายอื่นอีกหลายกระทง
ที่ขาดไม่ได้ คือ การชุมนุมครั้งนี้ มีบุคคลที่ไปพ่นข้อความบริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในลักษณะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ด้วย ซึ่งผู้ที่ร่วมชุมนุม ย่อมต้องถือว่า เป็นตัวการในการกระทำดังกล่าวด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
“พี่ศรี” บอกว่าเมื่อหิวแสง ก็จัดให้ ...พฤติการณ์เยี่ยงนี้ มิอาจปล่อยไว้ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมต่อสังคมไทย
