“เรืองไกร” สบช่องยื่น กกต.ยุบพรรคก้าวไกล ชี้ อภิปราย-เผยแพร่ข้อมูลงบราชการในพระองค์ เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์การปกครอง ยกกรณียุบ ทษช.เทียบ ชี้อ้างใช้สิทธิต้องไม่มีผลกระทบต่อคติรากฐานการปกครอง
วันนี้ (23 ส.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้วินิจฉัยและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคน ได้ร่วมกันในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ในส่วนมาตรา 36 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการในพระองค์ และต่อมายังได้นำทั้งข้อความ ภาพ วิดีโอการอภิปรายดังกล่าวไปเผยแพร่สู่สาธารณชนผ่านทางเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล ซึ่งพบว่า มีหลายข้อความเข้าข่ายเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคก้าวไกล ได้กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง ( 2) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ประกอบกับเมื่อพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2562 กรณียุบพรรคไทยรักษาชาติที่วางหลักไว้ว่า องค์พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ทรงความเป็นกลางทางการเมืองด้วยการดำรงฐานะอยู่เหนือการเมือง จึงเห็นว่าการกระทำของพรรคก้าวไกล และ ส.ส.พรรคก้าวไกล เข้าข่ายให้ กกต.พิจารณาเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค
“การกระทำของพรรค และ ส.ส.ก้าวไกล ดังกล่าว จึงเป็นการนำงบประมาณรายจ่ายของราชการในพระองค์ของพระมหากษัตริย์ มาเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งการจะอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพทางการเมืองตามที่รัฐธรรมนูญรับรองนั้น พรรคและส.ส.ก้าวไกล ย่อมต้องตระหนักรู้ด้วยว่า การกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพที่ได้รับจากรัฐธรรมนูญ ต้องไม่มีผลกระทบย้อนกลับมาทำลายหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ และสั่นคลอนคติรากฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทยที่ดำรงอยู่ให้เสื่อมโทรมไป”