xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมดาที่ไหน “ผู้กำกับโจ้ เฟอร์รารี่” เมืองนครสวรรค์ หล่อ รวย ไฮโซ เคยเป็นข่าวดังกับ “เมย์ พิชญ์นาฏ” ** โถ...คนหิวแสง “เต้” ท้าต่อยนายกฯ “เสี่ยเฮ้ง” ขอรับคำท้าแทน เกี่ยงให้ลดน้ำหนักก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ธรรมดาที่ไหน “ผู้กำกับโจ้-เฟอร์รารี่” เมืองนครสวรรค์ หล่อ รวย ไฮโซ ขับซูเปอร์คาร์ ชอบดารา เคยเป็นข่าวดังกับ “เมย์ พิชญ์นาฏ”

น่าสนใจอย่างยิ่ง กรณี พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เซ็นคำสั่งย้ายด่วน “ผู้กำกับโจ้” หรือ “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ นรต.รุ่น 57 ออกจากพื้นที่ไป ศปก.ภ.6 โดยคำสั่งย้ายระบุเพื่อเปิดทางให้ จเรตำรวจ ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง หลังจากมีเรื่องร้องเรียนจากตำรวจชั้นผู้น้อย ถึงกรณี “น้องมาวิน” นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตคาโรงพัก ขณะถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของ “ผู้กำกับโจ้” คุมตัวมาสอบขยายผล

เห็นว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา และที่เรื่องปูดขึ้นมา เพราะตำรวจชั้นผู้น้อยทำใจไม่ได้ มีเหตุถึงขั้นตายในโรงพักก็ว่าแย่แล้ว สาเหตุการตายยิ่งถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง มีข้อมูลร้องเรียนว่า เมื่อจับผู้ต้องหามาแล้ว มีการเรียกเงินผู้ต้องหา จนผู้ต้องหาชายยอมจ่าย 1 ล้านบาท แต่ใครบางคนไม่ยอม จะเอา 2 ล้านบาท จากนั้นก็มีเหตุการณ์เอาถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหา เพื่อทรมานจนขาดอากาศหายใจ และตายในที่สุด โดยบังคับผู้น้อย ว่า ให้บอกกับหมอว่าเสพยาเกินขนาดตาย
งานนี้ “พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ” จตช.ระบุว่า “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะหากเป็นความจริง ถือเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อประชาชน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างรุนแรง โดย พล.ต.อ.วิสนุ ได้สั่งการให้ “พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ” จตร.(หน.จต.) จัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ก่อนที่ ผบช.ภ.6 จะมีคำสั่ง เด้ง “ผู้กำกับโจ้” ในเวลาต่อมา

ว่าด้วย “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นนายตำรวจหนุ่มหน้าตาดี จัดว่าเป็นคนรูปหล่อของรุ่น นรต.57 ฐานะดี มีรสนิยมชมชอบ “ซูเปอร์คาร์” เป็นพิเศษ เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของรถเก๋งสปอร์ตหรู ลัมบอร์กินี รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario” ฉลองครบรอบ 50 ปี ผลิตออกมา 100 คันทั่วโลก และเขาได้มาเป็นคันแรกในประเทศไทย ราคาก็ว่ากันประมาณ 46 ล้าน และเห็นว่ามีอีกหลายคัน เช่น เฟอร์รารี่ จนได้ฉายาจากลูกน้องว่า “ผู้กำกับโจ้ เฟอร์รารี่”

สมัยที่ยังเป็น “สารวัตรโจ้” ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นข่าวตำรวจหล่อสุดฮอต ตามจีบ “เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร” ดาราสาว ถึงขั้นขอแต่งงาน แต่โป๊ะแตกเมื่อดาราสาวสืบทราบว่า สารวัตรโจ้ มีเมีย มีลูกแล้ว ซึ่งมีหลักฐานคือ เป็นภาพสารวัตรโจ้ กำลังเข้าพิธีแต่งงานกับสาวคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ “แจน” นิศารัตน์ กรรณสูต ไฮโซเจ้าของธุรกิจเต็นท์รถหรู ที่จำหน่ายรถเฟอร์รารี่ และ รถสปอร์ตยี่ห้อดังๆ โดยที่ไฮโซสาวก็งุนงง ว่า สามีไปขอนักแสดงสาวแต่งงานได้ยังไง

จากนั้นเป็นต้นมา ข่าวคราวของ “สารวัตรโจ้” กับวงการบันเทิงก็เงียบหายไปพักใหญ่ จนมาติดยศ พ.ต.ท.ในฐานะตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมัง มีผลงานการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติมาให้หน่วยงานได้ชื่นชมกันเป็นระยะ

ฟังว่า เมื่อ “ผู้กำกับโจ้” ย้ายมาที่นครสวรรค์ใหม่ๆ บรรดาตำรวจ สภ.เมืองปากน้ำโพ ก็ตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะเสิร์ชข้อมูลเจอว่า เป็นตำรวจจิตอาสา เป็นไฮโซ มีแฟนเป็นดารา และจากปากของผู้กำกับเอง มักจะบอกว่า รู้จักตำรวจผู้หลักผู้ใหญ่ดี
พอมาเกิดเหตุการณ์นี้เล่นเอา ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ต้องมอง “ผู้กำกับ” ของตัวเองใหม่

ที่โดนเด้งไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.6 ไว้ก่อน เพื่อไม่เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ครั้งนี้ โดย “พล.ต.อ.วิสนุ” ได้กำชับทีมตรวจสอบของจเรตำรวจ ให้เร่งดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้งผู้เสียหาย และผู้ถูกกล่าวหาอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานทั้งหมด

งานนี้ใครผิด ใครถูก ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งผลการสอบจะออกมาอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป ที่แน่ๆ เห็นโปรไฟล์ของ “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา



** โถ...คนหิวแสง “เต้” ท้าต่อยนายกฯ เจออดีตนักมวยตัวจริงขอดวลหมัด อ้างคำหรู ไม่ชกกับประชาชน “เสี่ยเฮ้ง” ขอรับคำท้าแทน เกี่ยงให้ลดน้ำหนักก่อน

สงสัยไม่ได้เป็นข่าวพาดหัวมานาน “เต้ พระราม 7” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งเดียวและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จึงต้องทำอะไรให้ชาวบ้านชาวเมืองได้ฮือฮากันสักหน่อย

และก็ได้ดังสมใจ เมื่อประกาศขอท้าชกกับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แบบตัวต่อตัว ในรูปแบบมวยคาดเชือก มือเปล่าเท้าเปล่า บนเวทีมวยลุมพินี เวทีมาตรฐานระดับประเทศ และเพื่อไม่ให้โดนครหาว่าเอาเปรียบคนแก่ “เต้” จะใช้แค่มือขวาข้างเดียว ส่วนนายกฯใช้ได้หมดทั้งมือทั้งเท้า แต่ห้ามส่งคนชกแทน ถือว่าผิดกติกา

โดยมีเดิมพันระดับชาติ ถ้า “ลุงตู่” แพ้ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ถ้า “เต้ พระราม 7” แพ้ ก็ลาออกจาก ส.ส.
อ้างเป็นตุเป็นตะ ว่า นี่เป็นวิธีการหาทางออกให้บ้านเมืองแบบสันติ ไม่มีใครต้องเสียเลือดเสียเนื้อ ต่อยเพื่อบ้านเพื่อเมือง เพื่อปลดแอกจากระบอบประยุทธ์ โดยตนจะขอทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชน

ส่วน “ลุงตู่” จะรับคำท้าหรือไม่ “เต้” ให้เวลา 10 วัน ในการตัดสินใจ แต่ถ้าไม่รับคำท้า ถือว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง เป็นถึงอดีตผู้นำเหล่าทัพ แต่ใจไม่สู้ ใจปลาซิว ขอให้ “ลุงตู่” ลาออกจากนายกรัฐมนตรีทันที ...ว่าไปนั่น!!

พลันที่ “เต้ พระราม 7” ประกาศคำท้าออกไป ไม่รู้ว่าได้ยินถึงหู “ลุงตู่” หรือยัง แต่ “สิระ เจนจาคะ” คู่กัดของ “เต้ พระราม 7” ในสภาฯ และอีกฐานะคือ “องครักษ์พิทักษ์ลุง” ก็ออกมาสวนทันที ว่า “เต้” กำลังทำอะไร จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรเสื่อมเสียหรือไม่ ทำผิดจริยธรรมของ ส.ส.หรือไม่ เพราะการกระทำเป็นลักษณะใช้กำลังขู่เข็ญนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าผิดอาญาหรือไม่ พร้อมเตือนสติว่า ตนเป็นอดีตนักมวย เป็นอดีตเจ้าของค่ายมวย ยังไม่เคยคิดจะใช้ความรุนแรง ถ้าได้เจอพ่อแม่นายมงคลกิตติ์ ก็จะถามว่า อบรมสั่งสอนลูกมายังไง

ความหมั่นไส้ต่อพฤติกรรมของ “เต้” ยังขยายไปถึงนักมวยเก่าอย่าง “เพชรพนม ณ นนทชัย” ที่ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ “เชน ลูกพ่อหลวง” โพสต์ภาพตัวเองยืนตั้งการ์ดมวย มีถ้วยรางวัลการันตีฝีไม้ลายมือจำนวนมากเป็นฉากหลัง พร้อมข้อความฝากไปถึง “เต้ พระราม 7” ว่า “ในฐานะที่ผมไม่รังแกคนที่ไม่มีทางสู้ เอาอย่างนี้ดีกว่า เต้ พระราม 7 ผมอายุ 50 ผมขอท้าคุณเต้ ชกกับผม มีเดิมพันให้ไม่อั้น ผมต่อให้คุณด้วยถ้าสองยกคุณไม่โดนผมน็อก ผมยอมแพ้คุณ # สนใจทักมานะเต้”

พอเจอนักมวยของจริงออกมาท้าอย่างนี้ “เต้” ถึงกับรีบประกาศขอบาย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “วันนี้เริ่ม ทำข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตู่-หนู-โอ๋ เต็มอัตราศึก ทำหน้าที่ ส.ส.ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ส่วนประชาชนบางคน ท้าชกผม ผมขอบาย เพราะประชาชนเป็นเจ้านายผม ส่วนนายกรัฐมนตรี ยังคงเดิมครับ ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าก็เพราะตัวผู้นำ”

เป็นข้ออ้างที่หรูหราหมาเห่าเสียเหลือกัน ไม่อยากชกกับประชาชน เพราะประชาชนเป็นเจ้านาย!!

แต่พอนักการเมืองด้วยกันอย่าง “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ประกาศอาสาชกแทนนายกฯ “เต้” ก็ออกอาการเกี่ยงงอน อ้างว่า “รัฐมนตรีเฮ้ง” อายุ 47 ปี สูง 185 เซนติเมตร หนัก 103 กิโลกรัม ส่วนตนเองอายุ 40 ปี สูง 178 หนัก 78.5 คนละรุ่นกัน จะรับคำท้าก็ได้ แต่ชกแบบพี่น้องไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนายกฯ และให้ “เสี่ยเฮ้ง” ไปลดน้ำหนักลงมาให้ได้ 25 กก. ก่อน
ก็เป็นอันว่า ไม่กล้าอีกเหมือนกัน!!

สรุปที่มาที่ไปของเรื่องนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก ก็เป็นความหิวแสงของ “เต้ พระราม 7” นั่นเอง เพราะหลังจากที่ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล หันไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ ทางซีกพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ไม่ได้ให้ค่าสักเท่าไหร่ และไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้คนได้พูดถึง




กำลังโหลดความคิดเห็น