รมว.สธ. มั่นใจฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพรักษาโควิดหาย ย้ำไม่มีล็อกสเปกประมูล ATK ชี้ “ซิโนแวค” มีคุณภาพต้านโควิด ขออย่าด้อยค่าวัคซีน
วันนี้ (22 ส.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีผลวิจัยของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19 นั้น ตนขอยืนยันว่า ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดี เนื่องจากมีการศึกษา บันทึก วิจัยอย่างเต็มศักยภาพ โดยทุกวันนี้ผู้ป่วยโควิด-19 หายจากโรคก็เพราะยาฟาวิพิราเวียร์ทั้งนั้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากกราฟขอผู้ที่หายป่วยมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในส่วนที่มีกรณีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ ส่งผลให้มีการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วของสายพันธุ์เดลตา แต่ขณะเดียวกัน ในส่วนของการทำงานของการกระจายวัคซีนนั้นถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งในเขตกรุงเทพมหานครคาดว่าประชาชนได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในส่วนที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคมาเพิ่ม 12 ล้านโดสนั้น ตนมองว่า หากไม่ได้วัคซีนซิโนแวคอาจส่งผลให้มีจำนวนของผู้ติดเชื้อมากยิ่งขึ้น ซึ่งวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพดีในช่วงของต้นปี แต่ตอนนี้ได้กลายพันธุ์เป็นสายเดลตา ซึ่งนักวิจัยต่างๆ ก็ไม่นิ่งนอนใจเร่งศึกษาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยการนำสูตรวัคซีนแบบไขว้มาป้องกันความรุนแรงของอาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน และเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยลดการแพร่เชื้อไม่ป่วยหนักและไม่เสียชีวิต ซึ่งเป็นเส้นทางที่ทำให้เร่งกลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ขอประชาชนมั่นใจในกระบวนการทำงานของวัคซีนที่มีในประเทศไทย ทั้งนี้ สถานการณ์ความคืบหน้าด้านวัคซีนนั้น คาดว่า มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่าไปด้อยค่ายี่ห้อวัคซีนใดเลย มั่นใจวัคซีนมีข้อดีทุกข้อ
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีการประมูลชุดตรวจโควิด-19 แบบ (ATK) ที่มีกระแสข่าวว่ามีการล็อกสเปกนั้น ในตัวหน่วยงานตนมิได้มีการควบคุมโดยตรง ซึ่งในส่วนขององค์การเภสัชกรรมก็มีทางประธานบอร์ดควบคุมดูแลอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ตนมองว่าเป็นอำนาจหน้าที่การตัดสินใจของแต่ละบอร์ดเพียงเท่านั้น ยืนยันไม่มีการล็อกสเปกอย่างแน่นอน