xs
xsm
sm
md
lg

ยกคำร้องประกันรอบ2 แกนนำสามนิ้ว-คุกอ่วม !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




เมืองไทย 360 องศา


นับว่าเป็น “สัญญาณลบ” ที่ออกมาชัดเจนมาก สำหรับบรรดา “แกนนำม็อบสามนิ้ว” มีชื่อทั้งหลายว่ามีแนวโน้มสูงอย่างยิ่งที่จะต้องอยู่ในเรือนจำ หรือถูก “คุมขัง” กันยาว ระหว่างการพิจารณาคดีที่แต่ละคนมีติดตัวยาวเป็น “หางว่าว”

ที่บอกว่าเป็นสัญญาณลบที่ส่อแววว่าต้องติดคุกกันยาวๆ ดังกล่าวน่าจะมาจากตัวอย่างกรณีของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกิน” นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์” กับพวกรวม 8 คน ได้ถูกศาลจังหวัดธัญบุรี ยกคำร้องประกันตัวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศาลจังหวัดธัญบุรี พิจารณาคำร้องยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา คดีหมายเลขดำ ที่ ฝ 382-390/2564 ครั้งที่ 2 ดังนี้ 1. นายพรหมศร วีระธรรมจารี 2. นายแซม สาแมท 3. นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์ 4. นายณัฐชนน ไพโรจน์ 5. นายสิริชัย นาถึง 6. นายชาติชาย แกดำ 7. นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ 8. น.ส.ปนัดดา ศิริมาศกุล ถูกแจ้งข้อกล่าวหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้น ไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

โดยผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดนั้น (ผู้ต้องหาลำดับที่ 2 ไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการฯ) ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีจำนวนรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน , ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ (ยกเว้นผู้ต้องหาลำดับที่ 1, 3, 6 และ 9 ) และข้อหาอื่น
ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดธัญบุรี และศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ในวันนี้ มีผู้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว (คำร้องใบเดียว) เสนอหลักประกันเป็นเงินสด คนละ 100,000 บาท โดยผู้ต้องหาทั้ง 8 คน แสดงความยินยอมใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ EM

ศาลจังหวัดธัญบุรี “พิเคราะห์คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ประกอบคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเจ้าพนักงานราชทัณฑ์แล้ว เห็นว่า กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม และให้งดการไต่สวน ยกคำร้อง”

แน่นอนว่าการยกคำร้องการขอประกันตัว “เป็นครั้งที่ 2” แบบนี้ต้องถือว่าเป็น “ข่าวร้าย” ไม่ใช่เฉพาะผู้ต้องหาทั้ง 8 รายดังกล่าว ที่มี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และนายภาณุพงศ์ จาดนอก รวมอยู่ในนั้น แต่ยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงผู้ต้องหาที่มีชื่ออีกอย่างน้อยสองสามคน ที่ก่อนหน้านี้ศาลนัดไต่สวนคำร้อง “เพิกถอนการประกันตัว” ในวันที่ 7 กันยายน ที่จะถึงนี้ คือน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” และ นายอานนท์ นำภา อย่างไรก็ดี สำหรับรายของนายอานนท์ นั้นถูกจับกุมในความผิดตาม มาตรา 112 เพิ่มเติมอีก เมื่อค่ำวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

ดังนั้น จึงเหลือเพียง น.ส.ปนัสยา เพียงคนเดียวที่ยังรอการไต่สวนคำร้องการเพิกถอนประกันตัวในวันที่ 7 กันยายนนี้ แต่เมื่อได้เห็นตัวอย่างกรณีของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ นายภาณุพงศ์ ที่ศาลยกคำร้องประกันตัวเป็นครั้งสอง มันก็ทำให้ต้อง “ลุ้นระทึก” และเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้ว รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาแต่ละคนที่ถูกร้องว่า “ทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว” มีพฤติกรรมเคลื่อนไหวที่ถูกร้องว่ากระทำผิดซ้ำ และไม่เกรงกลัวกฎหมาย มันก็ย่อมมองออกว่าผลน่าจะออกมาแบบไหน

ขณะเดียวกันในสถานการณ์โรคโควิดระบาด และผลปรากฏว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และแกนนำคนอื่นๆ อีกสองสามคนติดเชื้อโควิด ซึ่งผลตรวจเชื้อออกมาระหว่างที่พวกเขาถูกนำกลับเข้าเรือนจำอีกรอบ แม้ว่ายังไม่แน่ชัดว่า คนพวกนี้ติดเชื้อจาก “ข้างนอก” ระหว่างการชุมนุมที่มักเกิดขึ้นแทบทุกวัน หรือติดเชื้อระหว่างถูกควบคุมในเรือนจำ โดยทางเจ้าหน้าที่เรือนจำก็กล่าวทำนองว่า ผู้ต้องหาน่าจะติดเชื้อจากข้างนอก เพราะผู้ต้องหาถูกแยกกักตัวตามกำหนดยังไม่ได้ควบคุมตัวรวมกับผู้ต้องหารายอื่นแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี หากแยกโฟกัสเฉพาะการ “เพิกถอน” การประกันตัว ที่ได้เห็นตัวอย่างของ “แกนนำม็อบสามนิ้ว” อย่างน้อยสองสามคนแล้ว เช่น พริษฐ์ ภาณุพงศ์ และ อานนท์ ซึ่งสองรายแรก ศาลยกคำร้องประกันตัวครั้งที่สอง ส่วนรายหลังสุดศาลไม่ให้ประกันตัวจากคดีที่ถูกตั้งข้อหาในคดีเดิมคือ มาตรา 112 ที่เกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และกำลังจะถูกไต่สวน ในวันที่ 7 กันยายน พร้อมกับน.ส.ปนัสยา หรือก่อนหน้านั้นก็มี นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ที่ถูกเพิกถอนการประกันตัวเป็นรายแรก

ขณะเดียวกัน หากย้อนกลับไปพิจารณาจาก “เงื่อนไข” ในการให้ประกันตัวก่อนหน้านี้ ศาลห้ามเคลื่อนไหวในลักษณะที่กระทำผิดซ้ำ โดยเฉพาะการชุมนุมเคลื่อนไหวที่กระทำการ “เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” แต่แทบทุกการชุมนุมที่พวกเขาเข้าร่วมหรือเป็นแกนนำ ล้วนแสดงออกในทางตรงกันข้าม ในลักษณะที่ “กระทำซ้ำ” และ”ไม่เกรงกลัวกฎหมาย” ซึ่งศาลเคยระบุในบางคดีที่ให้เหตุผลว่าทำไมถึงยกคำร้องขอประกันตัว

ดังนั้น หากพิจารณาแนวนี้ก็น่าจะเป็นการสัญญาณออกมาให้เห็นชัดว่าผลจะออกแบบไหน โดยเฉพาะโอกาสที่จะได้รับการประกันตัวออกมาอีกครั้งถือว่าเป็นเรื่อง “ยากมากกว่าเดิม” และที่สำคัญหากพิจารณาจากจำนวนคดีเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ “สถาบันฯ” ที่แต่ละคนมีนับสิบคดี ซึ่งแต่ละคดีมีอัตราโทษสูง หากถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีมากมายแบบนี้ถือว่า “คุกยาว” แต่ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็ได้รับโอกาสออกมาแล้ว แต่ยังไม่หยุดเคลื่อนไหวในลักษณะเดิม ก็ต้องถือว่า “เป็นไปตามกรรม”แล้วกัน !!



กำลังโหลดความคิดเห็น