โฆษกรัฐบาล แจง ซื้อซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดส เหตุ ใช้ฉีดไขว้ในเข็มแรก กระตุ้นภูมิได้สูง เป็นนัยสำคัญที่ทำให้ไทยเริ่มจะฉีดวัคซีนแบบไขว้ WHO ให้การยอมรับ
วันนี้ (18 ส.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงข้อสังเกตว่า ทำไมรัฐบาลสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค เพิ่มเติมอีก 12 ล้านโดส แต่ไม่จัดซื้อชนิด mRNA มากกว่านี้ ว่า ขณะนี้มีผู้ฉีดวัคซีนกว่ายี่สิบล้านคน โดยเป็นเข็ม 1 เกือบ 18 ล้านคน และจากการเก็บข้อมูลผลการฉีด พบว่า คนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม จะมีภูมิขึ้นในระดับหนึ่ง ส่วนฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม จะมีภูมิมากกว่าซิโนแวค 2 เข็มเล็กน้อย แต่คนที่ฉีดซิโนแวคเป็นเข็มแรก และแอสตราเซนเนก้าเป็นเข็มสอง จะมีภูมิมากกว่าฉีดแบบสองชนิดแรกเกือบ 4 เท่า จึงเป็นนัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทย เริ่มที่จะฉีดวัคซีนแบบไขว้โดยการฉีดและทางองค์การอนามัยโลกให้การยอมรับ ดังนั้น จากนี้ไปจะฉีดซิโนแวคเป็นเข็ม 1 แล้วตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็ม 2 จะทำให้ภูมิสูงขึ้นและลดอาการป่วยรุนแรง จึงเป็นที่มาที่รัฐบาลสั่งซิโนแวคเข้ามาเพิ่มเติม
นายอนุชา กล่าวว่า ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณกว่า 9 พันล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายจัดซื้อวัคซีนชนิด mRNA ยี่ห้อไฟเซอร์เข้ามาเพิ่มเติม 20 ล้านโดส และลงนามสั่งซื้ออีก 10 ล้านโดส รวมเป็น 30 ล้านโดส โดยจะเริ่มเข้ามาในต้นเดือนตุลาคมนี้ หรืออาจจะเป็นในช่วงปลายเดือนกันยายน นอกจากนั้น ยังได้วัคซีนช่วยเหลือมาจากประเทศภูฏาน ที่เป็นการแลกเปลี่ยนวัคซีนกันอีกด้วย ทั้งนี้ วัคซีนที่จะเข้ามาโดยรวมแล้วประมาณ 100 ล้านโดส ที่ลงนามในสัญญาไปแล้ว