เส้นทางการรับราชการของปลัดกระทรวงมหาดไทย "ฉัตรชัย พรหมเลิศ" ปลัดกระทรวงมหาดไทย คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นอธิบดีอีกคนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยได้รับแต่งตั้งและเข้ารับตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560
กับเส้นทางเติบโตในราชการของ ปมท. คนที่ 39 ผู้นี้ เริ่มชีวิตราชการจากการเป็นปลัดอำเภอดงหลวง มุกดาหาร
จนได้เป็น หน.กิ่งฯ แม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ในปี 2539 โอนไปเป็น รพช.จังหวัดสิงห์บุรีและนครสวรรค์ในปี 2544-2545 สังกัด สนง.เร่งรัดพัฒนาชนบท ซึ่งเปลี่ยนเป็นกรมเร่งรัดพัฒนาชนบทในเวลาต่อมา
เมื่อมีการปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมฯปี 2545 รวมงานกรมเร่งรัดพัฒนาชนบทกับงานโยธาธิการ บางส่วน ตั้งเป็นกรมทางหลวงชนบทสังกัดกระทรวงคมนาคม
ปลัดฉัตรชัย ฯ จึงโยกตัวเองมาอยู่กรมปภ.ฯ กรมที่ตั้งขึ้นใหม่ใน มท.ในตำแหน่งผอ.กองการเจ้าหน้าที่ ปภ.เมื่อ กพ.2546 ก่อนเลื่อนเป็น ผอ.สำนักฯและรองอธิบดี กรม ปภ.ในเดือน ธค.2548 ตามลำดับ
1 ต.ค.2552 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯ ลพบุรี มีผลงานที่รู้คือ เมื่อครั้งน้ำท่วมปี 2554 ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตกไหลทะลักเข้ามารอบนอกของ จ.ลพบุรี ท่านฉัตรชัย คนนี้แหละ ที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน จากอุทกภัยน้ำท่วม ด้วยการการแก้ไข ปัญหาทำให้น้ำไม่ท่วมขังเข้าตัวเมืองถามคน จ.ลพบุรี จะรู้ดีว่า ทุกๆ วัน จะเห็นหน้าท่านฉัตรชัย จะออกมาลุยน้ำช่วยเหลือประชาชนจนผลงานเข้าตารัฐบาล จึงได้ขยับขึ้นเป็นอธิบดีกรมปภ.ใน 1 ตค.2555 สร้างผลงาน ด้านแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและ กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัย สร้างระบบป้องกัน เตือนภัย ฟื้นฟูหลังเกิดภัย และการติดตามประเมินผล เพื่อให้หลักประกันในด้านความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งยังคงใช้เป็นแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมจวบจนปัจจุบัน ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็น ปมท. นับเป็นอธิบดีกรมปภ.คนที่สองที่ข้ามขึ้น ปมท. ต่อจาก วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมปภ. ที่นำทางขึ้น ปมท.มา ก่อน พลิกโฉมของการเป็น ปมท. ที่ไม่จำเป็นต้องผ่านงานตำแหน่งในสายงานนักปกครอง อย่าง
นายอำเภอ หรือ ปลัดจังหวัดหรือ รองผู้ว่าฯ มาก่อนก็ได้
30 ก.ย.2564 ปมท. ท่านนี้จะครบเกษียณอายุการดำรงตำแหน่ง ครบ 4 ปีเต็ม อย่างเข้มแข็งและสง่างาม
ด้วยความมุ่งมั่น วิริยะอุตสาหะ ของปลัดฉัตรชัย ในการปฏิบัติหน้าที่ เปรียบประดุจพ่อบ้านของ มท.ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศเป็นกลไก ร่วมมือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งในเรื่องความเป็นอยู่การทำมาหากิน ตลอดจนถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน อันเกิดจากภัยพิบัติตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ดำรงตำแหน่ง ปมท.อย่างเข็มแข็ง และสง่างาม รวมทั้ง ภารกิจสำคัญต่าง ๆ ที่ ปลัดฉัตรชัย ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่มี มท. เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
จนเป็นที่รู้กันว่า ปลัดฉัตรชัย นั้นเป็นนักปกครอง มีความรู้ ความสามารถ มากมายด้วยน้ำใจ มีบุคลิกโอบอ้อมอารี มีมนุษย์สัมพันธ์ และอัธยาศัยที่ดีงามมีประสบการณ์ เพียบพร้อมด้วยความเป็นผู้นำ และผู้ประสานงานกับทุกฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหา ในสถานการณ์บ้านเมือง ที่ต้องการสร้างความปรองดอง อย่างกลมเกลียวและมีประสิทธิภาพ
นับแต่ 1 ต.ค.2564 เป็นต้นไป ท่านจะเลือกใช้ชีวิตของข้าราชการประจำอาชีพ ที่เกษียณอายุราชการอยู่บ้านอย่างสงบเรียบง่าย หรือจะเลือกเดินอีกเส้นทางหนึ่ง เข้าสู่ถนนการเมือง ด้วยการนำประสบการณ์ของนักปกครองที่สร้างผลงานตลอดระยะเวลาที่รับราชการใน มท.จนครบอายุราชการอย่างสง่างาม สมกับคำขวัญของ มท.ว่า "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ประเทศชาติ และประชาชน อันเป็นที่รัก
ปลัดฉัตรชัย จะอยู่ในความทรงจำของคน มท.หรือจะอยู่บนเส้นทาง ที่จะตอบแทนคุณแผ่นดินในรูปแบบใด
ปลัดฉัตรชัย คนเดียว เท่านั้นที่จะให้คำตอบได้