“แรมโบ้” ซัดฝ่ายค้าน ประเทศเกิดวิกฤต รัฐบาลกำลังเร่งแก้ แต่ยังจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ควรมีสมองคิดให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม คิดแต่จะหาประโยชน์ทางการเมืองให้ตัวเอง จนไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน จวกอภิปรายที่ผ่านมา มีแต่พ่นน้ำลายไร้สาระ ประชาชนเบื่อหน่าย
วันนี้ (17 ส.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี 5 คน โดยระบุว่า ฝ่ายค้านน่าจะเข้าใจสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเป็นอย่างดี และการแก้ไขปัญหาของนายกฯ และรัฐบาลว่ามีความยากลำบากมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในขณะที่นายกฯ และรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน ฝ่ายค้านก็ไม่ควรที่จะนึกถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองจนคิดไม่ได้ว่าสิ่งใดควรทำสิ่งใดไม่ควรทำ
นายเสกสกล ระบุว่า แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถทำได้ แต่ตนเองมองว่าไม่ควรที่จะมาอภิปรายในช่วงที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤต ซึ่งหากอยากอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้าน ก็ควรที่จะรอเวลาที่เหมาะสมก่อน อีกทั้งส่วนตัวมองว่าหากจะต้องมีการประชุมสภาฯ ก็ขอให้เป็นเรื่องที่สำคัญก่อน เพราะการประชุมสภาฯ ถือเป็นการรวมคนหมู่มาก อาจจะมีการแพร่เชื้อโควิดระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มในสภาฯได้
แต่เมื่อฝ่ายค้านได้ยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว นายกฯ หรือรัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ไม่ได้กลัวการอภิปรายในครั้งนี้ เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร และนายกฯ จะถือโอกาสใช้เวทีสภาฯนี้ ชี้แจงทำความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ โควิด-19 ทุกประเด็น ของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง
และการอภิปรายครั้งนี้ ฝ่ายค้านคงจะนำแต่ประเด็นเก่าๆ เอามาโจมตีนายกฯ และรัฐบาล ไม่มีเรื่องใหม่ ประชาชนได้ฟังคงเบื่อหน่ายฝ่ายค้าน เหมือนการอภิปรายทุกครั้งที่ผ่านมา พ่นน้ำลายจนท่วมสภาหาสาระอะไรไม่ได้เลย
การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง ก็ไม่ได้มีการเตรียมข้อมูลมาอภิปราย หรือการกล่าวหานายกฯ และรัฐมนตรี ไม่มีน้ำหนักที่น่าเชื่อถืออะไรได้เลย ที่จะเป็นข้อมูลที่ได้ประโยชน์ต่อประชาชน เป็นการอภิปรายเพื่อหวังโจมตีทำลายความชอบธรรมของนายกฯ และรัฐบาลหวังจะให้คะแนนนิยมในสายตาประชาชนตกต่ำลงมากกว่า แต่ผลงานของรัฐบาลประชาชนรู้ดีว่า ในยามวิกฤตเช่นนี้ นายกฯ และรัฐบาลได้ทุ่มเทตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุดแล้ว จะมีผิดบ้างถูกบ้างไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ไขไม่ได้ ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน ไม่ใช่คอยจ้องแต่จะล้มรัฐบาลหวังกลับมามีอำนาจเอง แสวงหากิเลสความใคร่อยากมีอำนาจบนความเดือดของพี่น้องประชาชน พรรคร่วมฝ่ายค้านเอาสมองส่วนไหนมาคิด
“ก็คงจะมีแต่ฝ่ายค้านการเมืองไทยนี่แหละ ที่จ้องแต่จะตีกินทางการเมืองได้ทุกสถานการณ์โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ของประชาชน และปัญหาวิกฤตของประเทศที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่นายกฯ หรือใครในรัฐบาลอยากให้เกิดเชื้อโควิดขึ้นมาจนทำให้เกิดการสูญเสีย ต่อให้มีผู้นำฝ่ายค้านนับร้อยคนมาแก้ปัญหาก็อาจจะยิ่งแย่กว่านี้ก็เป็นได้ เพราะเก่งแต่เล่นใช้วาทะตีกิน แต่ไม่เก่งในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติประชาชนเลย” นายเสกสกล กล่าว