ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ศึกม็อบ-ซักฟอก “ลุงตู่” น่าผ่านไม่ยาก แต่ศึกที่แท้ เกิดจากสนิมเนื้อในตนนี่สิ อาการหนัก
ตั้งแต่เข้าสู่เดือนสิงหาคมมานี้ รัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องบอกว่า เจอมรสุมลูกใหญ่เข้ามาในหลายลูก ทั้งการแพร่ระบาดโควิด ที่ยอดผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตทำนิวไฮ แทบทุกวัน เศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนก็ทุกข์ยากแสนเข็ญ
ขณะเดียวกัน ม็อบขับไล่รัฐบาล ที่มี ม็อบราษฎร และ เครือข่าย เป็นตัวยืน ผสมโรง กับม็อบเสื้อแดงศัตรูเก่า ที่นำโดย “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ฝ่ายแรกเน้นเกมรุนแรง ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน ขณะที่ฝ่ายหลังกำลังสะสมมวลชนขึ้นเรื่อยๆ
ถึงนาทีนี้ ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังยันควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ ม็อบมาก็สลาย เข้าปะทะด้วยแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง ส่วนผู้ชุมนุมก็ตอบโต้ เป็นลักษณะชุนมุนกันเป็นรายวัน โดยแนวโน้มก็น่าจะยืดเยื้อกันไป
พร้อมๆ กันนี้ ศึกในสภาฯก็เห็นว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว โดยแย้มมาว่า คนที่ฝ่ายค้านหมายมั่นปั้นมือจะ “ซักฟอก” น่าจะมี 6 คน ไล่ไปตั้งแต่ หัวหน้าคณะ “ลุงตู่” ทั้งเรื่องเรือดำน้ำ จัดหาโดรนชายฝั่ง “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรณีจัดหาวัคซีน “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.เกษตรและสหกรณ์ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่ตรงนี้อาจจะยังไม่นิ่ง เพราะอาจจะมีเพิ่มมาอีก 1 คน คือ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ฟังว่า เป้าหมายซักฟอกที่จะโดนหนักๆ เน้นๆ พรรคฝ่ายแค้นมุ่งที่ตัว “ลุงตู่” เป็นหลัก แต่จากการประเมินแล้ว คอการเมืองเชื่อว่า ทั้งม็อบและศึกซักฟอก ลุงน่าจะผ่านได้ แถมจะไม่เหนื่อยมากนัก ก็เป็นอย่างที่หลายคนได้เห็น การเคลื่อนไหวม็อบที่เลือกวิธีรุนแรง กลับเข้าทางรัฐบาลมากกว่า ส่วนศึกซักฟอกของพรรคฝ่ายค้าน โดยศักยภาพที่ผ่านมายังไม่เข้าขั้นที่จะล้มรัฐบาลได้
ว่ากันว่า ปัญหาของ “ลุงตู่” มีอยู่เรื่องเดียวที่สั่นคลอนรัฐบาล ก็คือ ศึกภายในของตัวเอง อันเกิดจาก “สนืมเนื้อในตน” นั่นเอง โดยเฉพาะ การบริหารจัดการควบคุมดูแลการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ล้มเหลวของ ศบค. ที่มีนายกฯสั่งการด้วย “Single Command”
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตั้งแต่การจัดหาวัคซีน ความไม่เพียงพอ ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ปล่อยปละให้มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของคณะกรรมการจัดหาฯ ระหว่างรัฐ กับ เอกชน จนเกิดเป็นปมภายในที่สั่งสมกลายเป็น “วัคซีนการเมือง” ทำประชาชนรอคอยวัคซีนกันอย่างเอือมระอา
มิหนำซ้ำ มาตรการ “ล็อกดาวน์” ที่กำลังจะถูกหลายฝ่ายที่ได้ผลกระทบรุมฟ้องกันนัวเนีย การจัดหาเตียงผู้ป่วย การเข้าถึงระบบการรักษาด้านสาธารณสุข สำหรับผู้ติดเชื้อยังคงเป็นปัญหาในหลายๆ พื้นที่ สะท้อนการประสานความร่วมมือของภาครัฐที่ ศบค. “เอาไม่อยู่” การแก้ปัญหายังเป็นแบบลูบหน้าปะจมูกขอไปที ทำให้ประชาชนท้อแท้ อยู่กันไปอย่างไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
“สนิมเนื้อในตน” นี่ต่างหากที่ทำลุงเหงื่อตกกีบ อาการหนักอยู่ทุกวันนี้.
**“สมบัติทัวร์” เกี่ยวก้อย “เต้น คาร์ปาร์ก” ไม่โกยตอนนี้จะไปโกยตอนไหน!
ว่าด้วยการเคลื่อนไหวชุมนุมไล่รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ช่วงนี้ปรากฏมีม็อบสารพัดม็อบ ย้อนกลับมาสู่บรรยากาศ สามัคคีชุมนุมกันอีกครั้ง พร้อมๆ กันนี้ โลกโชเชียลฯ ก็ขุดตำนาน “สู้แล้วรวย” ขึ้นมาเรียกขานสำหรับม็อบบางม็อบ
แน่นอนว่า ตำนานสู้แล้วรวยเบอร์ต้นๆ ที่คนแซะกันก็คงเป็น แกนนำเสื้อแดง นปช. อย่าง “เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่มาพร้อมม็อบ “คาร์ปาร์ก” วันนี้เกี่ยวก้อยมากับ “สมบัติทัวร์” สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” เจ้าของคาร์ม็อบ ที่เริ่มมาก่อนหน้านี้ ที่โลกโซเชียลฯ ก็กำลังจับตาไม่แพ้กัน
วันนี้ทั้ง “เต้น และ บก.ลายจุด” จัดกิจกรรม Car Park ร่วมกันเพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง
เห็นว่า การชุมนุมเมื่อวาน (15 ส.ค.) เป็นการชุมนุมออกสตาร์ท และน่าจะมีการเคลื่อนไหว Car Park ทุกๆ วัน หรือทุกๆ สัปดาห์ โดยเคลมไว้ว่าจะจัดใหญ่กว่า ม็อบ 3 นิ้ว หรือกลุ่มม็อบราษฎร
สเกลงานที่ประโคมโอ่ มีทั้งกิจกรรมบนท้องถนนแล้วถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊กไลฟ์ ไลฟ์ ยูทูบ และคลับเฮาส์
เรียกว่า มีเครื่องหมายคำถามตามมาทันทีว่า ใครเป็นสปอนเซอร์กันหนอ เพราะอีเวนต์แบบนี้ต้องเงินถุงเงินถัง กันพอสมควร
จะเป็นใครอย่างไร? ของพรรค์นี้ปิดกันไม่มิดหรอก ชาวโชเชียลฯ เขาเร็ว ทีมนักสืบทำงานกันแป๊บเดียวก็รู้
ส่วนคนที่เคยรู้ทางกันอย่าง “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นว่า จะยื่น ปปง.ให้สอบเส้นทางธุรกรรมการเงิน จัดคาร์ม็อบ ของ “เต้น” ว่าเอามาจากไหน อย่างไร
สำทับซ้ำจาก “อานนท์ แสนน่าน” ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ที่ออกมาร่วมด้วยช่วยแฉ คนเสื้อแดงจะไม่ขอออกไปร่วมม็อบด้วย ที่ผ่านมา ถูกหลอก เจ็บปวด เพราะมวลชนถูกปล่อยทิ้ง ติดคุก และมีคดี แต่แกนนำ “สู้แล้วรวย”
ว่ากันว่า หนทางรวยของแกนนำม็อบเหล่านี้ นอกจากรายได้ของสปอนเซอร์ ยังมีทั้งเงินรายได้ที่มาจากขายของ เปิดรับเงินบริจาคผ่านสื่อโซเชียลตัวเอง สมัยนี้ระดมได้ง่ายกว่าในอดีตเยอะ เรียกได้ว่า ไหลมาเทมา ได้เลย
สถานการณ์แบบนี้เป็นจังหวะเหมาะ ไม่โกยตอนนี้จะไปโกยตอนไหน!
**ไทยชนะที่หนึ่งโลกเกม “POPCAT” ชิลๆ เพราะซ้อมกดจองสิทธิ์กันมาแล้วทุกแอปฯของลุง
เกิดกระแสไวรัล เป็นข่าวฮือฮากันในโซเชียลมีเดีย เมื่อชาวเน็ตชาวไทยแห่แหนกันเข้าไปเล่นเกมที่ชื่อว่า ป๊อปแคท - POPCAT มินิเกม เป็น มีมแมวอ้าปาก ที่ว่ากันว่า เล่นง่ายแสนง่าย ไม่มีอะไรเลยนอกจากการคลิกปุ่มบนหน้าเว็บ หรือบนโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยๆ ซึ่งระบบจะนับจำนวนสถิติการกดเอาไว้ โดยในเกมนี้มีการนำยอดคลิกจากแต่ละประเทศมาเปรียบเทียบกัน
ปรากฏว่า ด้วยพลังการกดในเวลาเพียงสั้นๆ อันดับของไทย ก็ปาดหน้าขึ้นอันดับ 1 ได้เป็นผลสำเร็จ โดยยอดรวมกว่า 25,000 ล้านครั้ง แซง แชมป์เก่าอย่าง ไต้หวัน รวมถึง มาเลเซีย ที่ตกไปอยู่อันดับ 3
จาก “ไทยชนะ” อันดับที่แสดงให้เห็นชาวเน็ตไทยไม่แพ้ใครในโลก ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นเป็นเบื้องหลังฮาฮา แข่งกะใครก็แข่งไป แต่มาแข่งกับพี่ไทย ถ้าเทียบเป็นนักกีฬา คนไทยซ้อม POPCAT มายาวนาน ตั้งแต่การจองสิทธิ์ “เป๋าตุง” “คนละครึ่ง” “เราไม่ทิ้งกัน” “เราเที่ยวด้วยกัน” มาจนถึง จองวัคซีน “หมอพร้อม” “ไทยร่วมใจ” สารพัดแอปฯ ได้บ้าง แอปฯล่มบ้าง จ้องกันข้ามวันข้ามคืน กดแล้วกดอีก แถมถูกเทบ้าง เป็นประสบการณ์ที่ช้ำชองกันทั้งนั้น
เรียกว่า คนไทยได้ฝึกแข่งขันวิ่งควาย แข่งความเร็ว จองสิทธิ์มาแทบทุกแอปฯ ที่รัฐบาลลุงออกมารัวๆ ในห้วงโควิด ปีเศษๆ ที่ผ่านมา
แหม..ก็แล้วแบบนี้จะไม่ชนะได้อย่างไร.