xs
xsm
sm
md
lg

ACT ค้าน “ปรเมศวร์” นั่งผู้ตรวจอัยการ ชี้ต้องคดีเมาแล้วขับชนแล้วหนี หวั่นส่งผลกระบวนการยุติธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ค้านตั้ง “ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม” ขึ้นผู้ตรวจการอัยการ ชี้ต้องคดีอาญาเมาแล้วขับ ชนผู้อื่นแล้วหนี หวั่นสร้างมลทิน กลายเป็นเสาหลักปักขี้เลน กระทบศรัทธาต่อองค์กร และกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ (13 ส.ค.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เผยแพร่เอกสารแสดงความคิดเห็นกรณีการแต่งตั้งอัยการระดับสูง โดยเฉพาะกรณีที่อัยการสูงสุด ได้มีหนังสือถึง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งมติการประชุมคณะกรรมการอัยการ ว่า เห็นชอบในการเลื่อน นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 63 เป็นต้นไป โดยเนื้อหาในเอกสารระบุ ดังนี้

“ฤ จะเป็นเสาหลักปักขี้เลน”
เป็นเรื่องอันตรายและน่าเศร้าสลดมากต่ออนาคตของบ้านเมือง หากสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ดำรงอยู่เป็นเสาหลักความยุติธรรมที่มั่นคงยืนหยัดให้ประชาชน แต่กลับโอนเอนเป็นเสาหลักปักขี้เลนเพราะพวกพ้อง และผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงหลักการและเกียรติยศ จากกรณีการผลักดันแต่งตั้งอัยการระดับสูงขึ้นเป็น “ผู้ตรวจการอัยการ” ทั้งๆ ที่ถูกดำเนินคดีอาญาเพราะขับรถยนต์ในขณะมึนเมาแล้วชนผู้อื่น แต่เรื่องการแต่งตั้งยังไม่แล้วเสร็จ เพราะยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ล่าสุด เมื่อ 2 สิงหาคม 2564 อัยการสูงสุดได้มีจดหมายถึงเลขาธิการ ครม.ให้กราบบังคมทูลฯ อีกครั้ง โดยให้การแต่งตั้ง มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เงื่อนไขนี้จะส่งผลให้ได้รับการแต่งตั้งเป็น “รองอัยการสูงสุด” ในเดือนกันยายนนี้
ความโปร่งใสที่ไม่เป็นธรรม คือ ความกล้าที่หยามเกียรติยิ่งกว่า!

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2562 อัยการระดับสูงท่านนี้ได้ขับรถยนต์ในขณะมึนเมาเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์และไม่หยุดลงมาช่วยเหลือ แต่มีชาวบ้านขับรถติดตามไปทัน ตำรวจตั้งข้อหาขับขี่รถขณะเมาสุรา หรือของมึนเมาเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน ขับรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี และกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี ยื่นฟ้องเฉพาะความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุรา โดยสั่งไม่ฟ้องข้อหาชนเเล้วหนี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จึงทำความเห็นแย้ง แต่อัยการสูงสุดชี้ขาดยืนตามอัยการจังหวัด จำเลยรับสารภาพ ศาลพิพากษาให้จำคุก 2 ปี แต่รอลงอาญาและให้คุมประพฤติ 1 ปี โดยต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง (ยังไม่มีข้อมูลว่ากรณีนี้ได้รับประโยชน์จาก พ.ร.ฎ. พระราชทานอภัยโทษฯ เมื่อ 28 กรกฎาคม 2564 ด้วยหรือไม่) อัยการไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ขณะที่ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีความเห็นแย้งให้ยื่นอุทธรณ์คดีขอให้ลงโทษสถานหนัก สุดท้ายอัยการสูงสุดชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีจึงยุติ

เลือกปฏิบัติ หรือ ยุติธรรม? คุณธรรม อยู่ที่ไหน?
ผลจากคดีที่ฟ้องร้อง อัยการท่านนี้ยังถูกลงโทษทางวินัยให้ว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งฟังดูธรรมดามากที่ทำผิดแล้วโดนว่ากล่าวตักเตือน แต่มันเบามากเมื่อเทียบกับกรณีอัยการเมาแล้วกร่างให้ตำรวจพาไปร้านลาบ เมื่อปี 2560 กรณีนี้ไม่มีความผิดอาญาไม่ได้ถูกศาลพิพากษา ต้องถูกลงโทษไม่เลื่อนตำแหน่งนาน 2 ปี เพราะถือว่าทำผิดวินัยฐานกระทำการที่อาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 64 ประกอบมาตรา 74

อย่างนี้ ยึดหลักเท่าเทียมหรือเลือกปฏิบัติ!
ทำให้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้เกี่ยวอะไรหรือไม่กับการที่อัยการอาวุโสท่านนี้เป็นหนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบกรณีอดีตรองอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีบอสกระทิงแดง

รัฐธรรมนูญมาตรา 76 และแผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ วางหลักให้การแต่งตั้งข้าราชการยุคใหม่ต้องยึดถือหลักระบบคุณธรรม หากองค์กรใดฝืนแต่งตั้งบุคคลที่มีมลทินมัวหมองเป็นผู้บริหารระดับสูง ย่อมเท่ากับสร้างบรรทัดฐานขึ้นมาใหม่ แล้วสังคมจะยอมรับและศรัทธาผู้บริหารและองค์กรนั้นได้อย่างไร

จึงเกิดคำถามว่า ผู้ใหญ่ในสำนักงานอัยการสูงสุดกำลังคิดอะไร มีเบื้องหลังหรือไม่? และต้องถามอัยการทั่วประเทศว่า ท่านพร้อมแล้วที่จะเห็นภาพและบอกกับสังคมว่า คนที่ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมความประพฤติเพราะข้อหาเมาแล้วขับรถชนผู้อื่นแล้วหนีคือ … ผู้บังคับบัญชาของท่าน! ท่านพร้อมแล้วใช่ไหมที่จะบอกกับทุกคนว่า ความผิดเช่นนี้สำหรับผู้ใหญ่ถือเป็นความผิดเล็กน้อย แต่หากเกิดขึ้นกับคนทั่วไปจะตัดสินว่าโทษมหันต์น่าอับอาย
เมื่อเสาหลักปักอยู่ในขี้เลน … สังคมจะพึ่งพาเสาได้หรือ?

“อัยการ” คือ เสาหลักในการปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดิน เป็นที่พึ่งพิงของประชาชนเมื่อเกิดคดีความ จึงต้องชัดเจนในความถูกต้องตรงไปตรงมา ต้องประพฤติตนด้วยมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมขั้นสูง ยิ่งผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจสั่งการเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ยิ่งต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้เกิดการยอมรับศรัทธาต่อการปฏิบัติหน้าที่และวิชาชีพ

ทุกวันนี้คอร์รัปชันในภาครัฐไม่ลดลง เพราะการเห็นแก่พวกพ้องในทางที่ผิด คอยช่วยเหลือและอุปถัมภ์เกื้อกูลกัน ถ้าเป็นการกระทำของคนในองค์กรอัยการและศาล ความเสื่อมเกียรติเสียศักดิ์ศรีที่เกิดขึ้นจะทำลายความเชื่อมั่น ของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมของชาติ
อัยการจึงต้องเป็นหลักชัยแห่งความหวังที่ตั้งมั่นบนฐานความซื่อสัตย์ เที่ยงธรรม เมื่อสามารถกลืนศักดิ์ศรีแห่งสถาบันได้ ก็ไม่ต่างจากเสาหลักปักขี้เลนที่ไม่นานก็อาจจะล้มจมหายไปในขี้เลน … เราจะยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยหรือ?






กำลังโหลดความคิดเห็น