xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.สำนึกคุณสถาบันกษัตริย์ช่วยโควิดปชช. เตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 12 ส.ค. สั่งเพิ่มสายแพทย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พลโท สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก (แฟ้มภาพ)
“บิ๊กบี้” ประชุมหน่วย ทบ. น้อมสำนึกคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ช่วยเหลือประชนช่วงโควิด / เตรียมจัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ “12 สิงหา”สานต่อกิจกรรมมีแล้วแบ่งปัน ให้กำลังใจ จนท.ด่านหน้า สั่งเตรียมกำลังสายแพทย์เพิ่ม

วันนี้ (6ส.ค.) พลโท สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบกแถลงว่า ในวันนี้มีการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกประจำเดือน สิงหาคม 2564 ซึ่งยังคงดำเนินการด้วยระบบออนไลน์ เพื่อติดตามและมอบแนวทางการทำงานของกองทัพบก โดยในการประชุม พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆโดยเฉพาะด้านการแพทย์ และการดูแลประชาชนในสถานการณ์โควิด ล่าสุดคือพระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์ มอบให้เพื่อสนับสนุน โรงพยาบาลสนาม, ศูนย์พักคอย, การฌาปนกิจศพ จึงขอให้กำลังพลทุกคนที่ทำงานในสถานการณ์โควิดขณะนี้ ได้ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจในฐานะ ทหารของพระราชา ที่จะต้องดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างดีที่สุด สำหรับโอกาสมหามงคล 12 สิงหาคม ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบให้หน่วยทหารของกองทัพบก ร่วมกันจัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลในลักษณะเดียวกับที่เคยปฏิบัติ ด้วยโครงการ “จิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ” สานต่อกิจกรรม “มีแล้วแบ่งปัน” ดำรงการช่วยเหลือประชาชนตามแนวพระราชปณิธานในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ในส่วนภารกิจด้านความมั่นคง ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณและชื่นชม กองกำลังป้องกันชายแดน ที่ได้สกัดกั้นยาเสพติดโดยเฉพาะ ในพื้นที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ผลการจับกุมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เดือนกรกฎาคมพบการกระทำผิด 136 ครั้ง ยึดยาบ้า 6,517,999 เม็ด และไอซ์ 423 กิโลกรัม เฮโรอีน 35 กก.,กัญชา 2,497 กก., ฝิ่น 200 กก. ซึ่งควบคู่ไปกับการตรวจพบการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้จากปัจจัยการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิดและความต้องการแรงงาน อาจะมีการพยายามลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมากขึ้น ซึ่งการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงานในพื้นที่ชายแดน จะทำให้การสกัดกั้น และป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภทในพื้นที่ชายแดนครอบคลุมยิ่งขึ้น

ส่วนการสร้างความสงบสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมากองทัพภาคที่ 4 ได้ปฏิบัติการทางทหาร ในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่อย่างเป็นขั้นตอน ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพนั้น นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความห่วงใยและชื่นชมในความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ในการดูแลประชาชน รวมถึงสร้างความ สงบเรียบร้อย โดยเฉพาะการที่กองทัพบกได้นำชุดสุนัขทหารมาร่วมสนับสนุนภารกิจการตรวจค้นพื้นที่ และเข้าถึงผู้ก่อเหตุรุนแรงได้อย่างครอบคลุม สามารถช่วยในการค้นหา และลดความสูญเสีย ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้มอบให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง พัฒนาศักยภาพของชุดสุนัขทหารให้สามารถปฏิบัติการในภารกิจอื่นๆ โดยเฉพาะเป็นหน่วยสนับสนุนการรบ

การประชุมวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทำหน้าที่ ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดด้วยความตั้งใจ กองทัพบกได้ใช้กำลังทั้งในพื้นที่ชายแดน จังหวัดต่างๆและพื้นที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนทรัพยากรทุกสิ่ง เข้าสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์โควิด โดยภารกิจที่ดำเนินการมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาแต่ก็ลุล่วงไปด้วยดี แสดงถึงความพร้อมในการปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับบ้านโดยใช้อากาศยาน เครื่องบินลำเลียงแบบ 295 และ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ17, การจัดชุดเคลื่อนย้ายศพ, การจัดตั้ง โรงพยาบาลสนามศูนย์คัดกรองสโมสรทหารบก, การจัดตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกประชาชน เป็นต้น ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ให้ความสำคัญกับงานช่วยเหลือประชาชน ได้สั่งให้หน่วยททหาร ปรับการตั้งจุดบริการประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้ม ให้อยู่ในสถานที่ที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการได้สะดวกยิ่งขึ้น หรือเป็นจุดบริการที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ รวมทั้งการตรวจคัดกรองเชื้อโควิดในชุมชน ทั้งในส่วนที่กองทัพบกให้การสนับสนุนหน่วยงานภายนอก และตรวจคัดกรองในชุมชนทหาร เพื่อการค้นหาและควบคุมโรคตามนโยบายของรัฐ ส่วนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามศูนย์พักคอยสโมสรทหารบกนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดีเพราะสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วและตรงกับความต้องการ ผู้บัญชาการทหารบกสั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศนำรูปแบบดังกล่าวไปดำเนินการ รวมทั้งให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอยในแต่ละจังหวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้ย้ำถึงความตรากตรำของกำลังพลด่านหน้า บุคคลาการสายแพทย์ ที่ทำงานในสถานการณ์โควิด และดูแลประชาชนมานานอย่างต่อเนื่อง กำชับให้หน่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน อุปกรณ์ป้องกัน การหมุนเวียนกำลังพลเพื่อลดความเหนื่อยล้า การพิจารณาความดีความชอบและสิทธิกำลังพล สำรับกำลังพลสายแพทย์ซึ่งปัจจุบันกองทัพบกได้นำมาปฏิบัติงานเต็มอัตรา จำเป็นต้องมีการเตรียมกำลังประเภทนี้เพิ่มเติมเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต ได้สั่งการให้กรมแพทย์ทหารบกและกองพันทหารเสนารักษ์จัดอบรมให้ความรู้ด้านการแพทย์ให้กับกำลังพลในสายงานอื่นๆ เพื่อให้พร้อมสนับสนุนภารกิจด้านการรักษาพยาบาลเพิ่มเติมต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น