กลุ่ม “เพื่อนธนกร” นำอาหารกล่องแจกชาวบ้านสู้โควิด-19 สวน “พิธา” ทำตัวเก่งยิ่งกว่าหมอ ยันล็อกดาวน์ไม่สูญเปล่า มั่นใจ “บิ๊กตู่” บุคลากรทางการแพทย์เดินถูกทางแล้ว
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้สละเงินเดือนจำนวน 3 เดือน เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงเงินที่กลุ่มเพื่อนธนกรได้ร่วมกันบริจาคมานั้น วันนี้ ตน และ ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยโซล่าร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) นายมนตรี บุญญาพงษ์พันธ์ ธนารักษ์จังหวัดนนทบุรี พร้อมกลุ่มเพื่อนธนกร ได้นำเงินไปจัดซื้ออาหารกล่องเพื่อไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ผ่านโรงพยาบาลศรีธัญญา โดยมี นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา เป็นผู้รับมอบ ทั้งนี้ ตนได้จัดซื้อจากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตนและเพื่อนๆ จะทยอยจัดซื้อข้าวกล่องไปแจกให้กับพี่น้องประขาชนอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ตนขอเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน เราจะฝ่าวิกฤตนี้ไปได้
นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า การล็อกดาวน์กำลังจะสูญเปล่า เจ็บแล้วไม่จบนั้น ตนไม่แปลกใจเลยที่พรรคก้าวไกลมักขัดแย้งกับพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง เพราะนายพิธาชอบอวดรู้ เก่งทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง ทำตัวเก่งกว่าหมอ การล็อกดาวน์เป็นมาตรการที่ทั่วโลกใช้ ประเทศไทยก็เคยใช้ได้ผลมาแล้ว การที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้น เพราะมีการตรวจเชิงรุกมากขึ้นโดยใช้ ATK แต่ผู้หายป่วยก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เกือบวันละเกือบ 20,000 คน ทำไมไม่พูดถึงบ้าง การล็อกดาวน์จะคู่กับมาตรการเยียวยาต่างๆ ที่รัฐบาลเร่งดำเนินการออกมา ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจำนวนทั้งสิ้น 29 จังหวัด ทั้งกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในระบบประกันสังคม รวมถึงผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบถุงเงินภายใต้โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ ตนมั่นใจว่า มาตรการล็อกดาวน์จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายพิธา ระบุว่า ปัญหาอยู่ที่ความสามารถในการบริหารของผู้นำนั้น ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ มีความสามารถที่จะแก้ปัญหาได้ ไม่เหมือนนายพิธาที่เอาแต่พูดโชว์หล่อไปวันๆ แต่ไม่เคยลงมือทำ อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทยว่าจะสามารถเอาชนะโควิด-19 ได้ แม้ติดขัดบ้าง แต่ถ้าหากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกัน เราจะสามารถฝ่าวิกฤตนี้ไปได้