xs
xsm
sm
md
lg

“หมอบุญ” ยังไม่เลิก ปั่นดีลไฟเซอร์ทิพย์ มาแน่นอนอีกแล้ว ** “ปลัดฯเก่ง” ว่าที่ปลัดมหาดไทยคนใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**วัคซีนนะไม่ใช่ขีปนาวุธ “หมอบุญ” ยังไม่เลิก ปั่นดีลไฟเซอร์ทิพย์ มาแน่นอนอีกแล้ว เจอกลาโหมที่ถูกอ้างเป็นคู่สัญญาแหกหน้าทันควัน งานนี้ ก.ล.ต.ยังรออะไร?

*วัคซีนนะไม่ใช่ขีปนาวุธ “หมอบุญ” ยังไม่เลิก ปั่นดีลไฟเซอร์ทิพย์มาแน่นอนอีกแล้ว เจอกลาโหมที่ถูกอ้างเป็นคู่สัญญาแหกหน้าทันควัน งานนี้ ก.ล.ต.ยังรออะไร? “หมอบุญ” นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) กับการประกาศว่า จะนำเข้าไฟเซอร์ วัคซีน mRNA ชื่อดัง ปั่นข่าวบอกใครต่อใครให้รอฟังข่าวดีอีก 1-2 วัน โดยอ้างเรื่องเอกสารสัญญามีจำนวนมาก หน่วยงานรัฐยังไม่พร้อมเปิดตัวพร้อมๆ กับราคาหุ้น THG ก็ดีดตัวขึ้นไปรอรับกระแสข่าว แต่จากเดือน ก.ค. ย่างเข้า ส.ค. จนแล้วจนรอด ล่วงเลย 1-2 วันมาไม่รู้กี่ครั้ง ดีลก็ไม่เกิดขึ้นจริงสักที กลายเป็นที่โจษขานกันว่าเป็น “ดีลทิพย์” “วัคซีนทิพย์” ชนิดที่ถามไถ่กันหนักว่า หมอบุญ เปลี่ยนอาชีพไปแล้วหรือ

แต่หลังจากที่เงียบไปพักหนึ่งล่าสุดปรากฏเป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ “สื่อเครือเนชั่น” ว่า ถึงแม้จะยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เพราะเป็นคำสั่งจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ที่อาจเข้าข่ายปั่นหุ้น แต่ขอแย้มข่าวดีว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะมีการเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหน่วยงานนำเข้าวัคซีน “ไฟเซอร์” แต่ยังไม่ขอระบุจำนวนว่ากี่ล้านโดส เพราะยังติดเงื่อนไขที่ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก

นพ.บุญ วนาสิน
“หมอบุญ” ยังบอกถึงความล่าช้าในการนำเข้าวัคซีน “ไฟเซอร์” ว่า กว่าที่จะหาหน่วยงานนำเข้าวัคซีนได้ ก็ใช้เวลานานถึง 2 เดือน เพราะไม่มีหน่วยงานไหนกล้าที่จะเป็นหน่วยงานประสาน ทำให้ต้องเสียเงินวางมัดจำไปถึง 2 ครั้ง เนื่องจากผิดนัดตามเงื่อนไข 10% เป็นจำนวนเงิน 500-600 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังติดปัญหาขั้นตอนการนำเข้า ที่กระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีการล็อก Number และ เช็กกับทาง บ.ไฟเซอร์ ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการบีบทุกวิถีทาง เพื่อให้สามารถนำเข้าให้ได้ก่อน
ภายในเดือนสิงหาคม 2564 นี้ ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ ในส่วนของตนเองได้มีการเช่าสถานที่ เพื่อรองรับการฉีดวัคซีนไว้หมดแล้ว
พลันที่ข่าวแพร่ออกไป ทันทีทันใดนั้น “พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์” โฆษกกระทรวงกลาโหม ก็ออกมาแหกหน้า “หมอบุญ” ทันควัน
โฆษกฯ กระทรวงลุงตู่ ปฏิเสธข่าวชัดถ้อยชัดคำว่า กห. และหน่วยงานในสังกัดไม่มีแผนหรือความตกลงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนใดๆ ในการสั่งซื้อ หรือนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์แต่อย่างใด และที่ผ่านมา กห. ก็ยังไม่เคยติดต่อตรงกับ บ.ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อเรื่องดังกล่าวด้วย

งานนี้ วัคซีนนะไม่ใช่ขีปนาวุธ ก็ไม่รู้ว่า “หมอบุญ” จะกลับเข้าที่ตั้งไปเย็บหน้าที่ รพ.ตัวเองทันหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ชาวโซเชียลฯ พากันเข้ามาแสดงความเห็นกันกระหน่ำ โดยเห็นพ้องต้องกัน นี่คงเป็นวิธีที่ หมอบุญ ให้ข่าวเพื่อหวังเลี้ยงราคาหุ้นต่อหรือไม่
ยิ่ง “ดีลไฟเซอร์ทิพย์” ที่หมอบุญพูดเองว่า เสียเงินมัดจำไป 500-600 ล้าน ผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ของหมอบุญ นิ่งนอนใจอยู่ได้อย่างไร เงินไม่ใช่น้อยๆ

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์
แถมบริษัทหมอบุญอยู่ในตลาดหุ้น งานนี้ ต้องมีคำชี้แจงให้ตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่มีเสียงเรียกร้องถึง ก.ล.ต. แบบนี้ยังจะรออะไร? ความเสียหายกับนักลงทุนที่หลงเชื่อลมปากหมอ จะรับผิดชอบกันอย่างไร?
นี่หากเป็นบริษัททั่วๆ ไป ผู้ถือหุ้นคงขอให้ตรวจสอบความเสียหายจากการกระทำของประธานไปนานแล้ว
“หมอบุญกับไฟเซอร์ทิพย์” ถึงที่สุดจะไปจบลงตรงไหน งานนี้ก็ขอให้โปรดติดตามกันให้ดีๆ



** “ปลัดฯเก่ง” ว่าที่ปลัดมหาดไทยคนใหม่ นอกจากจะเคยเป็นผู้ว่าฯที่อายุน้อยที่สุด ยังเป็น “มหาเก่ง” ไวยาวัจกร วัดราชบพิธ

การแต่งตั้ง “เบอร์ 1” ในสายข้าราชการประจำ ของกระทรวงมหาดไทย ที่จะมาแทน “บิ๊กฉิ่ง” “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะเกษียณอายุราชการเดือนกันยายนนี้ ก็ออกมาแล้ว...
เขาผู้นั้น คือ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวพร้อม “โผ” ว่าจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. มาตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว แต่ก็เลื่อนมาเรื่อย โดยบรรดาตัวเต็ง ที่มีชื่ออยู่ในโผ เช่น “ธนาคม จงจิระ” อธิบดีกรมการปกครอง “สิงห์ดำ” รุ่น 32 เพื่อนสนิทร่วมรุ่น “บิ๊กฉิ่ง” ...“นิสิต จันทร์สมวงศ์” อธิบดีกรมที่ดิน สิงห์ดำรุ่น 33... “จตุพร บุรุษพัฒน์” “สิงห์ดำ” รุ่น 36 ที่เคยรับราชการ กรมการปกครอง แต่ไปเติบโต ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนได้เป็นเบอร์ 1 ของกระทรวงนี้ จะกลับมาผงาดที่มหาดไทย ...แต่ก็มีกระแสต้านจากคน “คลองหลอด” ไม่น้อย
3 ชื่อข้างต้น ถูกจัดให้เป็นเต็ง 1-2-3

สุทธิพงษ์ จุลเจริญ
ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง แต่ก็อยู่ในข่ายแบบ “มีสิทธิ์” ขึ้นเบอร์ 1 เหมือนกัน อย่าง “ประยูร รัตนเสนีย์” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สิงห์ดำ รุ่น 33 … “บุญธรรม เลิศสุขีเกษม” อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สิงห์ดำรุ่น 34 …รวมทั้ง “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน สิงห์ดำ รุ่น 36

เรียกว่าตำแหน่งนี้ เป็นของ “สิงห์ดำ” แน่ๆ และสุดท้าย “พี่น้อง 3 ป.” ก็เลือก “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” เป็นผู้เหมาะสมที่จะขึ้นนั่งตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมกับมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวง อีก 27 ตำแหน่ง

“สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ชื่อเล่น “เก่ง” เป็นคน จ.ตราด เกิดเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2507 ปัจจุบันอายุ 57 ปี เป็น “สิงห์ดำ” รุ่น 36 จบรัฐศาสตร์บัณฑิต และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมรสกับ “วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ” ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซี จำกัด (มหาชน)

ชีวิตราชการ เริ่มจากปลัดอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง, ปลัดอำเภอฟากท่า จ.อุตรดิตถ์, ปลัดอำเภอบางเลน จ.นครปฐม, ปลัดอำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี และปลัดอำเภอบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

เคยช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นเลขานุการ รองปลัดกระทรวง และผู้อำนวยการ ศอ.บต. “พลากร สุวรรณรัฐ” เป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่านการรับใช้ ใกล้ชิด รมว.มหาดไทย ถึง 4 คน คือในยุค พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา, อารีย์ วงศ์อารยะ, พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง


ในสมัยที่ “พรรคภูมิใจไทย” คุมกระทรวงคลองหลอด “ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล นั่ง มท.1 “สุทธิพงษ์” เป็นรอง ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม เป็นแบ็กอัพทีม มท.1 ที่มี ประธานคณะทำงานชื่อ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม คนปัจจุบัน ซึ่งในเวลาต่อเนื่องจากนั้น “สุทธิพงษ์” ได้ขยับนั่งรองผู้ว่าฯ นครนายก ก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้ว่าฯ นครนายก ในปี 2553 เป็นผู้ว่าฯ ที่อายุน้อยที่สุดคือ 46 ปี
แต่เมื่อกระแสการเมืองเปลี่ยน “สุทธิพงษ์” ก็ถูกย้ายเข้ามาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งปี 56 จึงได้กลับไปเป็นผู้ว่าฯ สระบุรี, ปี 57 เป็นผู้ว่าฯ ชัยนาท, ปี 58 เป็นรองปลัดฯ มหาดไทย, ตุลาฯ 60 เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, ตุลาฯ 62 เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ตุลาฯ 64 จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย และจะไปเกษียณอายุราชการ กันยาฯ 67
สำหรับคนคลองหลอด รู้ดีว่า “สุทธิพงษ์” หรือ “อธิบดีเก่ง” นั้น นอกจากจะมีคอนเนกชันกับนักการเมืองแทบทุกพรรค ทุกขั้ว ตามแบบฉบับของนักปกครองแล้ว ยังจัดว่าอยู่ในสาย “ธรรมะ ธัมโม” ด้วย โดยได้รับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ให้ดำรงตำแหน่งเป็นไวยาวัจกร ฝ่ายบริหารงานสาธารณสงเคราะห์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมานี่เอง
ปี 64 จึงถือว่าเป็นปีทองของ “อธิบดีเก่ง” “มหาเก่ง” และ “ปลัดเก่ง”!!




กำลังโหลดความคิดเห็น