“หนุ่ม กรรชัย-มดดำ” จับโป๊ะ “น้ำ มิสแกรนด์” ปมโยง “ตุ๊กกี้” หลอก “ณวัฒน์” ไปติดโควิด ที่รู้มาไม่ใช่อย่างนั้น! ** ฟ้าทะลายโจร กำลังเปล่งแสง นักการเมืองต่างวิ่งเข้าใส่ “ลุงดอน-ลุงป้อม” แย่งกันอาสาเข้ามาจัดระบบ

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“หนุ่ม กรรชัย-มดดำ” จับโป๊ะ “น้ำ มิสแกรนด์” ปมโยง “ตุ๊กกี้” หลอก “ณวัฒน์” ไปติดโควิด ที่รู้มาไม่ใช่อย่างนั้น!

หลังจากที่ “น้ำ มิสแกรนด์” พัชรพร จันทรประดิษฐ์ นางงามในดวงใจ องครักษ์พิทักษ์ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เจ้าของเวทีประกวดมิสแกรนด์ ไลฟ์สดกล่าวอ้างค่ายเวิร์คพอยท์ ของ “เสี่ยตา” ปัญญา นิรันดร์กุล เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ พนักงานติดโควิดหลายคน แล้วแค้นฝั่งหุ่นโยงถึง “ตุ๊กแก” คือ ต้นเหตุหลอกให้ลูกพี่ “ณวัฒน์” ไปทำงานจนติดเชื้อโควิด

นางงามมิสแกรนด์ ยังเอ่ยอ้างถึง “แชตลับ” ที่กุมความลับของค่ายเวิร์คพอยท์ ก่อนจะฝากให้ “น้าปัญญา” ติดต่อกลับตัวเอง หากไม่ติดต่อกลับเท่ากับรู้เห็นไปกับพนักงานในบริษัท
เมื่อเรื่องนี้มีเงื่อนงำ “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ และ “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย สองพิธีกรรายการ “ข่าวใส่ไข่” ก็ได้ออกมาเผยว่า อย่างแรก คือ “ตุ๊กแก” ที่ น้ำ มิสแกรนด์ ด่าทอก็คงหมายถึง “ตุ๊กกี้” ตลกหญิงชื่อดังของค่ายเวิร์คพอยท์ โดย มดดำ เผยว่า ตุ๊กกี้ไม่ได้ติดโควิด พูดตรงๆ ว่าเขาตรวจทุกวัน ตรวจหนักกว่าเราอีก เวิร์คพอยท์ ตรวจหนัก ทั้งพีซีอาร์ และ แรปบิท เทส ด้วยซ้ำ
แต่ที่นางงามมิสแกรนด์ บอกว่า เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ 40 กว่าคน ก็ควรต้องมีข่าวหรือไม่ วันนี้ ดาราติดคนนึง ใครไม่รู้บ้าง


ขณะที่ “หนุ่ม กรรชัย” บอกว่า ที่รู้ที่ได้ยินมามันไม่ใช่ ไม่น่าใช่อย่างนั้น เพราะพอได้รับทราบข่าว ก็เช็กข่าว ก็สืบ มันไม่ใช่ ในนั้นไม่ได้เอ่ยว่า ตุ๊กกี้ ติด แต่เอ่ยชื่อว่าดาราตลก ต.ชวนไป แต่ถามจริงๆ ตุ๊กกี้จะชวนไปได้ไง มันไม่ใช่
พูดตรงๆ พี่ณวัฒน์ ที่ไปก็ไปขายของ ตุ๊กกี้ จะชวนพี่ณวัฒน์ไปขายของที่นั่นเหรอ เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียนะ ตุ๊กกี้ ก็ไม่ใช่เจ้าของรายการนะ ถูกไหม ?
เรื่องนี้ ถ้า “น้ำ มิสแกรนด์” พูด ก็ต้องรอดูหลักฐาน เอาหลักฐานมาว่ากัน ว่าจริงหรือไม่ ? เรื่องแบบนี้พูดลอยๆ ไม่ได้ เพราะมีความเสียหายถึงเวิร์คพอยท์ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ฟ้องได้นะ ซึ่ง “หนุ่ม กรรชัย” ยืนยันว่า สิ่งที่พูดเป็นกลางที่สุด ไม่ได้ไปข้างใดข้างหนึ่ง
งานนี้สองคู่หู “มดดำ- กรรชัย” ที่ถือว่าทำงานสายข่าว และใกล้ชิดอยู่ในวงการบันเทิงด้วย จับโป๊ะขยี้ปม “น้ำ มิสแกรนด์” ฟาดงวงฟาดงา ก็น่าเชื่อได้ว่า เรื่องจริงๆ นั้นเป็นอย่างไร


นี่เลยอดคิดต่อไปอีกไม่ได้ว่า “น้ำ มิสแกรนด์” ที่สู้เพื่อลูกพี่ “ณวัฒน์” ติดโควิดคราวนี้ ก็ช่างคิดช่างแค้นคนไปทั่ววงการไปเหมือนลูกพี่ จนไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ ไลฟ์สดออกสื่อแต่ละทีก็เต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด ขาดสติ ที่สุดก็ถูกสวน ถูกแฉกลับว่ามีแต่ “เฟกนิวส์” แบบนี้ควรต้องดึงสติกลับมากันได้แล้วกระมัง ก่อนจะกู่ไม่กลับไปอีกคน
เอาสะใจตัวเอง หน้าแหกไม่เป็นไร โนสน โนแคร์สังคม ยิ่งในยามวิกฤตนี้เฟกนิวส์เยอะอยู่แล้ว มันไม่งามนะจ๊ะ!



** ฟ้าทะลายโจร กำลังเปล่งแสง นักการเมืองต่างวิ่งเข้าใส่ “ลุงดอน-ลุงป้อม” แย่งกันอาสาเข้ามาจัดระบบ
ถึงวันนี้เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า “ยาฟ้าทะลายโจร” สามารถรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดได้ผลดี โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งติดเชื้อ หรือที่ยังไม่แสดงอาการ ถ้ากินยาฟ้าทะลายโจรตามที่แพทย์กำหนด ก็สามารถยับยั้งไม่ให้เชื้อลงปอดได้
ล่าสุด ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษา และลดภาระระบบสาธารณสุข ที่ล้นมืออยู่ในขณะนี้
เรียกได้ว่า “ยาฟ้าทะลายโจร” ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ จากที่ประชุม ครม.แล้ว


โดยในที่ประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ได้รายงานผลการศึกษา และการทดลองใช้ “ฟ้าทะลายโจร” กับผู้ต้องขังในเรือนจำ 1.18 หมื่นคน พบว่าได้ผลดี สามารถรักษาผู้ต้องขังหายแล้ว ร้อยละ 99.02 จากยอดผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด

ทางกระทรวงยุติธรรมยังได้มอบนโยบายให้เรือนจำ และทัณฑสถานทั่วประเทศ ปลูกสมุนไพรประเภทต่างๆ โดยเน้นการปลูกฟ้าทะลายโจร และกระชายขาว เป็นหลัก ไปแล้วประมาณ 140 ไร่

“รมว.สมศักดิ์” ยังเสนอต่อนายกฯว่า เพื่อให้การบริหารจัดการเรื่องยาฟ้าทะลายโจร อย่างเป็นระบบ ครบวงจร ควรจะมี “รองนายกฯ” คนใดคนหนึ่งมารับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ตั้งคณะกรรมการ จัดโครงสร้าง ดูแลตั้งแต่ การปลูก การผลิตเป็นยา การควบคุมคุณภาพ การรักษา และการวิจัย พัฒนา เพราะเรื่องนี้นอกจากจะใช้รักษาผู้ติดเชื้อในประเทศแล้ว ยังมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ อย่างมาก

ปรากฏว่า “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ รีบเสนอตัวเองเข้ามารับผิดชอบ เป็นประธานคณะกรรมการ บอกว่า ตนเองได้ศึกษา และพูดเรื่องการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด มาเยอะ ทำเอารัฐมนตรีหลายคนออกอาการ งง งง ว่าเอ๊ะ … “ท่านรองฯ ดอน” เคยไปศึกษา หรือว่าไปพูดเรื่องฟ้าทะลายโจร ที่ไหน ไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ยิน

คนที่หายงง ก่อนใครคือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่พอที่ประชุมพูดถึง “ยาฟ้าทะลายโจร” ก็ตั้งใจฟังมาตลอด ไม่ได้สะลึมสะลือ ...รีบบอกว่า ไม่ได้ ไม่ได้ ท่านรองฯ ดอน ผมขอเป็นประธานคณะกรรมการในเรื่องนี้เอง เพราะอยู่ในความรับผิดชอบของผมอยู่แล้ว ...


เพราะ “ลุงป้อม” เพิ่งมอบหมายให้มือทำงานอย่าง “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ลงพื้นที่ไปดำเนินการ
โดย “ผู้กองธรรมนัส” เพิ่งประชุม มอบหมายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ใช้ศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์ ในเขตปฏิรูปที่ดิน 5 ศูนย์ และ ศูนย์สมุนไพรแบบครบวงจร ที่ อ.แม่มอก จ.ลำปาง ปลูกต้นกล้าฟ้าทะลายโจร ขิง ข่า ตะไคร้ กระชายขาว และตะไคร้ อย่างน้อยศูนย์ละ 100,000 กล้า เตรียมนำไปแจกจ่ายให้แก่เกษตรกร 30,000 ราย ทำการปลูก และยังให้กรมพัฒนาที่ดินเข้ามาช่วยสนับสนุน ให้ความรู้เกี่ยวการบำรุงดิน ระบบน้ำ นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาส่งเสริมในการผลิต และจะให้ทางกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นผู้รับซื้อผลผลิตที่ได้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
และเมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมานี้เอง “ผู้กองธรรมนัส” ก็เพิ่งลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.พะเยา ไปเยี่ยมศูนย์ขยายพันธุ์ฟ้าทะลายโจร อ.แม่ใจ และตรวจเยี่ยมสถานีพัฒนาที่ดิน ท่าวังทอง อ.เมืองฯป็นต้นแบบปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร กระชายขาว เพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน
ซึ่งในที่สุด “ลุงตู่” ก็แต่งตั้งให้ “ลุงป้อม” เป็นประธานคณะกรรมการฯ โดยโครงสร้างของคณะกรรมการชุดนี้ ก็จะมีกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมเป็นกรรรมการ
เตรียมการถึงขั้นนี้แล้ว “ลุงป้อม” ย่อมไม่ปล่อยให้ “ลุงดอน” มาคว้าโครงการไปต่อหน้าต่อตา เพราะนอกจากจะเป็นผลงานของรัฐบาลแล้ว ยังเป็นผลงานของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะอยู่ในใจของประชาชน เลือกตั้งเมื่อไรก็เอามาเคลมได้