xs
xsm
sm
md
lg

อย่าปล่อยรัฐราชการเป็น ‘รัฐฆาตกร’ ‘ธวเดช’ จี้ ‘ประยุทธ์’ ตื่นมาทลายคอขวด ช่วยชีวิตประชาชนได้แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(27 ก.ค.)นายธวเดช ภาจิตรภิรมย์ หัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ กล่าวแสดงความเห็นต่อสถานการณ์โควิด 19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า เป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะการระบาดกำลังเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดและรวดเร็ว จากผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลักพันเพิ่มเป็นหลักหมื่นติดต่อกันในเวลาเพียงสัปดาห์กว่า จนกระทั่งมาอยู่ที่ประมาณ 15,000 ในเวลานี้ การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันจำนวนมาก ความจริงไม่ใช่ปัญหาหากมาจากการตรวจเชิงรุกต่อวันจำนวนมากเพื่อพาผู้ป่วยเข้าสู่ขั้นตอนกักตัวและรักษา ตรงนั้นจะเป็นการรักษาชีวิตประชาชนได้มากและลดความกดดันในระบบสาธารณสุข แต่แนวโน้มของประเทศไทยน่าจะไม่เป็นอย่างนั้นเพราะแม้สถานการณ์จะตึงเครียดขึ้นแค่ไหน อัตราการตรวจเชิงรุกก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญสวนทางกับตัวเลขที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นการสะท้อนความเข้มข้นของการระบาดจริงที่น่าจะมากกว่าตัวเลขที่ทางการพยายามกดไว้หลายเท่าตัว แต่สิ่งที่ไม่สามารถปกปิดได้เลยคือ ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็นจนหลักร้อยต่อเนื่องกันและคงเข้าสู่มากกว่า 200 คนต่อวันในเวลาไม่นานหากรัฐยังไม่มีมาตรการประคับประคองสถานการณ์อย่างตรงจุด โดยส่วนหนึ่งยิ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าและสะท้อนความล้มเหลวรัฐบาลอย่างไม่อาจอภัยได้ก็คือการเสียชีวิตคาบ้านหรือและการริมถนนที่เกิดขึ้นแทบเป็นรายวัน

“หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้และยังไม่เปลี่ยนแปลง คือความเป็นรัฐราชการที่ทั้งไม่เชื่อมประสานการทำงานระหว่างหน่วยงาน และการให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับงานธุรการและเอกสารราชการ ไม่น่าเชื่อว่าในสถานการณ์แบบนี้เขายังมีกะจิตกะใจเอาเอกสารเป็นเรื่องสำคัญกว่าชีวิตคนได้ ผมได้ยินคำว่า ปลดล็อกการเข้าถึง Rapid Antigen Test มาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว แต่ถึงวันนี้ยังไม่จัดหามาหรืออนุญาตจัดจำหน่ายเป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าถึงได้ ไม่รู้ระเบียบอะไรกันนักกันหนา ทั้งที่นี่เป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดที่ควรจะได้ใช้ประโยชน์ แต่สุดท้ายเป็นของหายากอีกชิ้นหนึ่ง ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ แม้รู้ผลเบื้องต้นว่าติดโควิด แต่ผลนี้ก็นำไปแสดงตนเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาไม่ได้ ไม่ว่าจะในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือการรักษาแบบ Home Isolation เพราะแนวนโยบายของรัฐยังไม่เปลี่ยน และไม่รู้ว่าต้องตายอีกเท่าไหร่จึงจะยอมเปลี่ยน กว่าจะได้ยา กว่าจะได้ออกซิเจนไปต่อให้ลมหายใจรวยรินก็ของประชาชนได้ยังขอดูเอกสารจากผลตรวจแบบ RT-PCR ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะได้มา บางคนกว่าจะได้ก็กลายเป็นผู้ป่วยวิกฤตหรือบางคนก็เสียชีวิตไปก่อนแล้ว”นายธวเดช กล่าว

นายธวเดช ย้ำว่า รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิดทันทีและเดี๋ยวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการ ศบค. และ กระทรวงสาธารณสุข ควรลืมตาตื่นมาดูความจริงที่เกิดขึ้นเสียที อย่าปล่อยให้เอกสารราชการเป็นดังเคียวยมทูตที่พรากชีวิตคนหนึ่งไปด้วยความล่าช้าของระบบ พล.อ.ประยุทธ์ มีทั้งอำนาจและรวบสารพัดอำนาจทางกฎหมายไว้กับตัว นายอนุทิน มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลระบบสุขภาพของประเทศนี้ทั้งระบบ ถ้าทั้งสองคนยังไม่สามารถทลายคอขวดของระบบราชการที่ล่าช้าได้ ประเทศนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมีอำนาจหน้าที่แบบนี้อีกแล้ว

“หลายเดือนที่ผ่านมา บุคคลทั้งสองยังคงไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ยังคงปล่อยให้ระบบราชการทำงานไปอย่างไม่อินังขังขอบต่อความตายของประชาชน คนหนึ่งจึงเลือกที่จะ work from home อยู่ที่บ้านในวันที่มีคนตายอย่างอนาถาริมถนน ขณะที่อีกคนที่ควรจะหาวิธีลดระเบียบขั้นตอนต่างๆ วางระบบสาธารณสุขยามวิกฤตให้ช่วยชีวิตคนได้เร็วกว่านี้”นายธวเดช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น