xs
xsm
sm
md
lg

ไขความจริงจัดซื้อวัคซีนไทย ทำไมต้องซิโนแวค-แอสตร้าฯ ‘อนุทิน ’ลั่น สธ.ยุคนี้ไม่มีเรื่องผลประโยชน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เจตนารมณ์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทุกวันนี้ ไม่มีใครคิดถึงผลประโยชน์ คนที่ประชาชนคิดว่าจะมีผลประโยชน์ที่สุดคือนักการเมือง ผมก็คือนักการเมืองคนหนึ่งใน สธ. ตั้งแต่มีโควิดมา ผมไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลย นอกจากคิดว่าทำอย่างไรให้มีวัคซีนมาให้ประเทศไทย ที่ดีที่สุด ที่มากที่สุดให้ได้ ก็แค่นั้นเอง”

เป็นคำยืนยันหนักแน่นของ ‘หมอหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. ที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา (เผยแพร่เมื่อ 25 ก.ค. 2564) เกี่ยวกับเงื่อนปมร้อนที่สาธารณชน ‘กังขา’ ว่าทำไมต้องมีการจัดหาซื้อแต่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อ ‘ซิโนแวค’ มีค่าหัวคิวหรือไม่?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลไทย โดยเฉพาะ สธ. กำลังเป็น ‘ตำบลกระสุนตก’ จากหลายฝ่ายในการบริหารจัดการโควิด-19 รวมถึงการจัดหาวัคซีน ทั้งที่ความจริงแล้ว ‘กระทรวงหมอ’ แห่งนี้ ถูก ‘นายกฯลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ใช้วิธี ‘รัฐประหารโควิด’ ให้ ครม.ลงมติโอนอำนาจตามกฎหมาย 31 ฉบับให้นายกรัฐมนตรีจัดการโควิด-19 แบบเบ็ดเสร็จ?

ทว่าผลงานที่ผ่านมาสไตล์ ‘วันแมนโชว์’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เห็นกันดีอย่างทุกวันนี้ว่า แทบไม่กระเตื้องอะไร ซ้ำยังสุมรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปอีก แม้แต่มาตรการล็อกดาวน์ล่าสุดผ่านมาราวสัปดาห์เศษ แต่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งทะยานแตะหลักหมื่นเกือบทุกวัน เสียชีวิตอีกวันละเป็นร้อย-เฉียดร้อยศพ

ทว่าคนที่ถูกโยนเป็น ‘แพะรับบาป’ กลับกลายเป็น อนุทิน ชาญวีรกูล เจ้ากระทรวงหมอไปเสียได้?

‘หมอหนู’ ชี้แจงสารพัดคำถามที่หลายคนสงสัยไล่เรียงมาตั้งแต่เรื่องทำไมต้องสั่งวัคซีนซิโนแวคมาเยอะ โดยตอบว่า ข้อมูลการศึกษาทางวิชาการจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ พบว่า การฉีดวัคซีนแบบสลับยี่ห้อ โดยเข็มแรกเป็นซิโนแวค เข็มสองเป็นแอสตร้าเซนเนก้า จะเพิ่มภูมิป้องกันโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญซิโนแวคที่บางฝ่ายพยายาม ‘ด้อยค่า’ นั้น ความจริงคือสามารถกันอาการป่วยหนักและเสียชีวิตได้สูงเกือบ 100% นอกจากนี้ยังป้องกันสายพันธุ์อัลฟ่า สายพันธุ์ต่าง ๆ ในยุโรปได้ดี แม้แต่สายพันธุ์เดลต้าที่เพิ่งเข้าไทยช่วงเดือน พ.ค. 2564 สามารถป้องกันได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพอาจน้อยลงเล็กน้อย

“อย่างผมไม่ใช่แพทย์ เมื่อปลัด สธ. อธิบดีกรมควบคุมโรค และอธิบดีกรมต่าง ๆ บอกว่านี่คือสิ่งที่ควรปฏิบัติ สำหรับผมมีอยู่อย่างเดียวคือสนับสนุน ในฐานะเป็นประธานกรรมการโรคติดต่อฯ ประธานกรรมการวัคซีนฯ ในกฎหมายผมจะเซ็นอะไรไปต้องมีประโยคว่า ‘ด้วยความเห็นชอบ’ หรือ ‘โดยคำแนะนำ’ ของ 2 กรรมการฯชุดดังกล่าว ผมถึงลงนามได้ ผมไม่สามารถลงนามได้ด้วยตัวเอง” อนุทิน ยืนยัน

ถัดมาประเด็นเรื่อง ‘ค่าหัวคิว’ ที่บางฝ่ายเอามาวิพากษ์วิจารณ์ในการจัดซื้อซิโนแวคนั้น ‘หมอหนู’ ชี้แจงละเอียดยิบว่า หากมีหัวคิวต้องมีนายหน้า หรือผ่านตัวกลาง แต่การติดต่อซื้อซิโนแวคนั้น ได้ประสานผ่านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำไทย หลังจากนั้นจึงมีการเจรจาโดยตรงกับบริษัทผู้ผลิตที่จีนถึงหน้าโรงงานเลย ท้ายที่สุดจึงมีการซื้อกันโดยบริษัทผู้ผลิตขายให้กับรัฐคือองค์การเภสัชกรรม ก่อนจะส่งต่อให้กรมควบคุมโรค ไม่มีเอเยนต์ ไม่มีตัวกลาง ไม่มีจุดไหนจะรั่วได้เลย และบริษัทผู้ผลิตซิโนแวค คือบริษัทใหญ่มากแห่งหนึ่งในจีน ผลิตวัคซีนมากสุดในโลก คงไม่สามารถให้หัวคิวใครได้

ส่วนอีกเงื่อนปมร้อนคือจดหมายของแอสตร้าเซนเนก้าที่เผยแพร่สัญญาการจัดซื้อวัคซีนของไทย โดยถูกบางฝ่ายนำไป ‘ขยายแผล’ ว่าจัดซื้อวัคซีนล่าช้านั้น ‘หมอหนู’ ชี้แจงละเอียดยิบในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (เผยแพร่เมื่อ 24 ก.ค. 2564) เช่นกันว่า จดหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นทางการ ส่วนในเรื่องตารางที่เห็น อยากแก้ไขว่า รัฐบาลไทยคอนเฟิร์มและลงนามไปตั้งแต่ 27 พ.ย. 2563 อีกครั้งเดือน มี.ค. 2564 แต่งานเอกสารคือส่งกลับไปและกว่าเขา (แอสตร้าฯ) จะส่งกลับมาใช้เวลากว่า 2 เดือน นี่เป็นเรื่องของระบบไม่เกี่ยวกับเรา

ส่วนเรื่องความต้องการที่แอสตร้าฯอ้างว่าไทยอยากได้ 3 ล้านโดส/เดือน ‘หมอหนู’ ยืนยันว่า ในทางการตลาดเป็นการ ‘บลัฟกัน’ เพื่อให้บอกว่าเขาได้มากกว่าที่ต้องการ แต่ได้โทรไปหา Country Manager ของแอสตร้าฯยืนยันว่า ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีการพูดถึง 3 ล้านโดส แต่เขาบอกว่าได้โน้ตเอาไว้ ตนเลยบอกว่าโน้ตแบบนี้ไม่ได้ เพราะวันที่เจอกันครั้งแรก 7 ก.ย. 2563 ไม่ใช่การเจรจาใด ๆ แค่ทำความรู้จักกัน ดังนั้นจดหมายอีกฉบับที่ตนส่งกลับไปขอ 10 ล้านโดส/เดือน คือสาระสำคัญ เพราะจดหมายฉบับแรกมันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือการเจรจาใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีความหมาย จะเขียนอะไรก็ได้

ดังนั้นสาเหตุที่ ‘อนุทิน’ จำเป็นต้องออกมาชี้แจงเรื่องราวดังกล่าว มิใช่เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล-นายกฯ แต่เพื่อชี้แจงข้อกังขาให้สาธารณชนรับรู้ ‘ความจริง’ ว่าการจัดซื้อวัคซีนที่เป็นเรื่องร้อนตอนนี้ ‘หมอหนู’ มิได้นิ่งดูดาย แต่กำลังพยายามอย่างเต็มที่

เหมือนที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า “ในเรื่องของผลประโยชน์ ยุคนี้ใน สธ. ไม่มีครับ”




กำลังโหลดความคิดเห็น