xs
xsm
sm
md
lg

“ยุทธพงศ์” จี้ “หมอโอภาส” แจงมุ่งซื้อแต่ซิโนแวค-เปิดสัญญาแอสตร้าฯ บี้ “อนุทิน” เปลี่ยนตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.ส.มหาสารคาม พท. จี้ “หมอโอภาส” แจงเหตุผลทำไมจ้องซื้อแต่ซิโนแวค ทั้งที่สภาพัฒน์เปิดทางให้จัดหายี่ห้ออื่นควบคู่ พร้อมย้ำให้เปิดสัญญาซื้อวัคซีนแอสตร้าฯ ลั่นปล่อยให้บริหารต่อไปไม่ได้ บี้ “อนุทิน” เปลี่ยนตัวด่วน

วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีที ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่มี นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะอนุ กมธ. เป็นประธานการประชุม โดยมีการพิจารณางบประมาณของกรมควบคุมโรค ซึ่งมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าชี้แจงต่อคณะอนุ กมธ.

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่ง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.ฝ่ายค้าน ได้สอบถาม นพ.โอภาส ว่าเหตุใดกรมควบคุมโรคถึงจัดซื้อแต่วัคซีนซิโนแวค พร้อมทั้งขอให้เปิดเผยเอกสารสัญญาการจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า จากหนังสือคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ ของสภาพัฒนาการเศรษกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) กำหนดให้นำงบประมาณ 6.1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเยียวยา ไปจัดหาวัคซีนโดยเห็นควรให้กรมควบคุมโรคดำเนินการในการพิจารณาจัดหาวัคซีน หนังสือดังกล่าวยังระบุด้วยว่าขณะนี้โควิด-19 กลายพันธุ์แล้ว ดังนั้น ให้หาวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีอื่นที่สามารถป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้ หรือแปลว่า ไม่ให้ใช้ซิโนแวค แต่ให้ใช้ยี่ห้ออื่น ซึ่งในการชี้แจงก่อนหน้านี้อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ได้สอบถามไปยังองค์การเภสัชกรรมได้ความว่ามีแต่ซิโนแวค อย่างอื่นไม่มี ตนอยากถามว่า ทำไมราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มได้ หรือแม้แต่เอกชนก็ยังหาวัคซีนยี่ห้ออื่นได้

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เมื่อถามย้ำอีกครั้ง อธิบดีกรมควบคุมโรค ตอบใหม่เป็นครั้งที่สอง ว่า คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ซื้อซิโนแวค แต่กำหนดว่าให้จัดหายี่ห้ออื่นที่สามารถป้องกันการกลายพันธุ์ควบคู่ไปด้วย อีกเรื่องที่เป็นปัญหา คือสัญญาการจัดซื้อแอสตร้าฯ ตั้งแต่ในห้องประชุมใหญ่ของคณะ กมธ. จนถึงวันนี้ผ่านไป 5 วัน ก็ยังเป็นความลับอยู่ ดังนั้น อธิบดีต้องเอามาเปิดเผยว่าจัดซื้อแอสตร้าเซนเนก้าได้เท่าไหร่

ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า จากเอกสารของสภาพัฒน์ ระบุชัดเจนว่า ให้จัดหาวัคซีนควบคู่กัน จำนวน 10.9 ล้านโดส กรมควบคุมโรคได้มีการเจรจาจัดหาแล้ว และวันนี้ก็ได้ลงนามกับไฟเซอร์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือแจ้งสภาพัฒน์เพื่อนำเงินกู้จำนวนดังกล่าวมาใช้ต่อไป

“ขอย้ำว่า ควบคู่ไม่ได้แปลว่าไม่ให้ซื้อ การหาวัคซีนระหว่างเดือน ก.ค.- ส.ค. มีความสำคัญมาก เพื่อจะได้ฉีดให้กับประชาชนอย่างรวดเร็ว เวลากรมควบคุมโรคจัดหาวัคซีน จะจัดหาจากผู้ผลิตและตัวแทนต่างๆ ซึ่งในประเทศไทย คือ องค์การเภสัชกรรม ทางกรมควบคุมโรคได้มีหนังสือสอบถามเไปว่ามีวัคซีนอะไรให้กับกรมควบคุมโรคบ้าง ซึ่งทางองค์กรเภสัชฯ แจ้งกลับมาว่ามีวัคซีนซิโนแวค” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ชี้แจงเรียบร้อย นายสรวุฒิ ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมอยู่นั้น ได้เชิญผู้สื่อข่าวออกจากห้องประชุมคณะอนุ กมธ.

ต่อมา นายยุทธพงศ์ แถลงย้ำว่า ที่ผ่านมา การฉีดวัคซีนคือวาระแห่งชาติ รัฐบาลบอกว่าจะฉีดวันละ 5 แสนโดส แต่ปรากฏทุกวันนี้ยังไม่เคยมีวันใดที่ประชาชนฉีดได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ ซึ่งที่ประชุมคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณางบประมาณฯ ได้ซักถามว่าตกลงได้จัดซื้อวัคซีนจำนวนและราคาเท่าใด แต่ไม่ได้รับคำตอบ โดยปลัดกระทรวง สธ. ที่มาชี้แจงต่อ กมธ.วิสามัญ ได้แต่ชี้แจงในภาพรวม เมื่อถามหาสัญญาในการซื้อขาย ปลัดสาธารณสุข (สธ.) กลับโยนไปให้อธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งก็ยังไม่ได้รับคำตอบ จนกระทั่งเมื่อเช้าวันนี้ที่ประชุมคณะ กมธ. ได้ทวงถามเอกสารจาก นายวิเชียร ชวลิต รองประธาน กมธ. และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายวิเชียรไม่ยอมให้ โดยอ้างว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเอกสารดังกล่าวอยู่ในชั้นความลับ ขณะเดียวกัน วันนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรคก็มาชี้แจงต่อคณะอนุ กมธ. อยากถามว่าทำไมจึงจัดซื้อแต่ซิโนแวค ทั้งที่เชื้อกลายพันธุ์ไปแล้ว ทางสำนักงบฯบอกว่าให้หายี่ห้ออื่น ทำไมไม่หา

“ผมอยากได้หนังสือการสั่งซื้อแอสตร้าฯ ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ไม่ควรจะเป็นข้อมูลในชั้นความลับ เพราะเห็นว่าถ้า กมธ.ไม่สามารถตรวจสอบการใช้งบประมาณของแผ่นดินก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ถ้าปล่อยให้ นพ.โอภาส บริหารอย่างนี้ คนจะติดโรคและตายเป็นพันคนต่อวัน ดังนั้น ผมจะรอสัญญาการจัดซื้อ แม้จะเลยเคอร์ฟิวก็จะรอ” นายยุทธพงศ์ กล่าว

นายยุทธพงศ์ ยังเรียกร้องไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ให้เปลี่ยนตัวอธิบดีกรมควบคุมโรค หากจะให้บริหารต่อไปเช่นนี้ไม่ได้ งบประมาณ 6.1 พันล้านบาท ไม่ใช่จำนวนน้อย และเป็นเงินกู้ด้วย คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ กำหนดให้จัดซื้อวัคซีนที่ป้องก้นไวรัสกลายพันธุ์ แต่ก็ยังคงซื้อวัคซีนซิโนแวค ซื้อมาก็เป็นปัญหาว่าจะนำไปทิ้งที่ใด เพราะประชาชนไม่เชื่อมั่นไม่ยอมฉีดซิโนแวค นี่คือใบเสร็จที่ยืนยันว่าทำไมถึงมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน อย่างนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคต้องรับผิดชอบ






กำลังโหลดความคิดเห็น