เก่งแต่เห่า? “ดร.อานนท์” สวนสาวก “โทนี่” เจ็บแสบ โทนาฟเห่าเก่งแต่ในคลับ! ขณะยอดบริจาค “เจ้าสัว” 1,200 ล้าน “อดีตรองอธิการบดี มธ.” แฉจุดหมายม็อบ 3 นิ้วไม่ใช่ไล่ “ประยุทธ์” ? “เพื่อนเก่าทอน” วิเคราะห์เดรัจฉาน “โอ๊ค” ด่า “ไอ้เอก”?
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 ก.ค. 64) ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“เจ้าสัวบริจาคช่วยโควิดมาแล้ว 1,200 ล้านบาท โทนาฟเห่าในคลับเห่าอวดเก่งแก้ปัญหาโควิดทุกคืน บริจาคช่วยโควิดไปแล้วกี่บาท? ได้บริจาคเท่าขี้เล็บตีนเจ้าสัวหรือไม่? ดีแต่เห่าแต่ไม่ควักห่าอะไรสักบาทหรือไม่?
ว่าแต่ว่าอีซิ้ม @temple ฟื้นมาก็เริ่มรีดไถ ไม่คิดไปรีดไถโทนาฟกับไอ้ตี๋เนรคุณสองแผ่นดินบ้างหรือ?”
ขณะเดียวกัน รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“คนรุ่นใหม่” ที่รู้จักคุ้นเคยบางคนถามความเห็นมาว่า ทำไมลุงตู่ไม่ยอมลาออก ในเมื่อคนทั้งประเทศเรียกร้องให้ลาออกทุกวัน
ผมไม่เคยเชียร์ลุงตู่ แต่อดตั้งคำถามกลับไปไม่ได้ว่า ใช้อะไรบ่งชี้ว่าคนทั้งประเทศต้องการอย่างนั้น เพียงอ่านโพสต์ต่างๆ ของดารา และโพสต์ต่างๆ ของสื่อออนไลน์บางสำนัก ไม่ได้หมายความว่าคนทั้งประเทศต้องการให้ลุงตู่ลาออก อีกอย่าง หากลุงตู่ลาออกตอนนี้ ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะหมดไปหรือ วัคซีนยี่ห้อที่มีการปั่นกระแสจนเป็นที่ปรารถนาสูงสุดของผู้นิยม 3 นิ้ว นอกเหนือจากที่เขาบริจาคให้ฟรี จะมาถึงประเทศไทยทันทีหรือ
อย่างหนึ่งที่ผู้ที่ต้องการให้ลุงตู่ลาออกโดยไม่มีผลประโยชน์โดยตรงจากการลาออก ไม่เคยสนใจคือ หากลุงตู่ลาออก คณะรัฐมนตรีทั้งหมดก็ต้องออก รัฐบาลชุดนี้ก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นรัฐบาลรักษาการ จากนั้นกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร
อย่าลืมว่า วุฒิสมาชิกทั้ง 250 คนยังคงอยู่ และบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญยังมีผลบังคับใช้อยู่ นั่นหมายความว่า วุฒิสมาชิกยังสามารถลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกของทั้ง 2 สภาเท่าที่มีอยู่รวมกัน ซึ่งเราไม่ทราบว่าวุฒิสมาชิกจะลงคะแนนให้ใคร
ดังนั้น กว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีและตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ก็คงต้องวุ่นวายกันไม่น้อย อีกทั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นคนดี และแก้ปัญหาโควิดได้ดีกว่าลุงตู่หรือไม่ ไม่มีใครบอกได้
นี่เป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์การเมือง และนักการเมืองทุกคนมองออก จึงสงสัยว่า แล้วทำไมนักการเมืองฝ่ายค้านจึงยังคงหลับหูหลับตาไล่ลุงตู่เป็นรายวัน จนกระทั่งได้ฟังทักษิณประกาศใน club house ว่าจะกลับประเทศไทยทางประตูหน้าแน่นอน เพียงแต่ยังบอกวันเวลาไม่ได้ขณะนี้ ใน club house เช่นกัน เมื่อมีคำถามว่ารัฐบาลลุงตู่จะไปรอดหรือไม่ ทักษิณตอบว่า ไม่รอด คาดว่าประมาณต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งใหม่ จึงค่อยเริ่มเข้าใจ
วิธีเดียวที่ทักษิณจะกลับประเทศไทยโดยไม่มีคดีติดตัวได้ คือพรรคเพื่อไทยจะต้องได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และมีคะแนนเสียงมากพอที่จะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอยแบบที่เคยทำมาแล้วได้ และพรรคเพื่อไทยจะมีคะแนนเสียงในสภามากพอที่จะทำเช่นนั้นได้ จะต้องมีการยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ โดยใช้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่เปลี่ยนระบบเลือกตั้งให้เป็นการลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งจะยกเลิกการคำนวณจำนวน ส.ส.ที่พึงมี ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียวในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ซึ่งร่างการแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญดังกล่าว น่าจะผ่านสภาในวาระ 3 ได้ในเร็วๆ นี้ เพราะเป็นร่างของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย สนับสนุนเต็มที่
สังเกตว่า เมื่อทักษิณประกาศจะกลับไทยไม่นาน ประหนึ่งว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่จะยังไม่มากพอ ก็มีการประกาศว่าจะมีม็อบ 18 ก.ค. นำโดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่มย่อยต่างๆ อีก 15 กลุ่ม เพื่อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ
พลเอก ประยุทธ์ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข
ปรับลดงบสถาบันและกองทัพ สู้โควิด
เปลี่ยนวัคซีนหลักของประเทศเป็น mRNA
แม้จะประกาศเช่นนั้น แต่จุดหมายที่แท้จริงของม็อบอาจไม่ใช่การให้พลเอก ประยุทธ์ลาออก เพราะแกนนำทราบดีว่า อย่างไรเสีย พลเอก ประยุทธ์ก็คงไม่ลาออก ดังนั้นจุดหมายที่แท้จริงอาจต้องการให้พลเอก ประยุทธ์ประกาศยุบสภาเสียมากกว่า สอดคล้องกับความต้องการของทักษิณอย่างไม่น่าเชื่อ
ที่น่ากลัวคือ ในระยะหลังที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกเป็นผู้นำม็อบ จะมีความรุนแรงเกิดขึ้นทุกครั้ง ยังไม่ต้องพูดถึงความเสี่ยงในการเกิด cluster การติดเชื้อใหม่จากม็อบ อยากแนะนำลุงตู่ว่า หากเห็นท่าไม่ดี และไม่กลัวว่าจะมีบางคนกระอักเลือด ก็ประกาศยุบสภาไปเลย ยุบเสียก่อนที่ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบจะเข้าสภาในวาระ 3 นี่แหละดีที่สุด
พูดกันอย่างไรก็ไม่มีทางรู้เรื่อง ก็นับหนึ่งกันใหม่เลยดีกว่าครับ
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) เพื่อนเก่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร ที่โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า
“สิ่งหนึ่งที่เดรัจฉานฉลาดกว่าคนคือ มันจะไม่เลือกเอาสัตว์ตัวที่อ่อนแอ, เฮงซวย ขึ้นมาเป็นจ่าฝูง หน้ามุ่ยกระบือ”
โดยโพสต์ของนายพิชิต ระบุว่า
เดรัจฉาน
สิ่งที่เดรัจฉานมีคือ เมื่อได้รับเลือกเป็นหัวหน้าฝูงแล้ว ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เดรัจฉานผู้นำจะไม่หนีบริวารใต้ปกครองตนเอง พูดง่ายๆ จะไม่ทิ้งฝูง
โอ๊คที่รัก เราเจอเดรัจฉานที่หนีการนำ 2 คน คนหนึ่งคนพี่ อีกคนคนน้อง ทั้ง 2 หนีฝูงแบบหมาจุกตูดไปในกลีบเมฆ แต่เดรัฐฉาน 2 ตัวยังดี พอมีเรื่องราวในฝูงเก่า มันยังคอยเห่าจากด้านนอกให้พอได้ยิน
เดรัจฉานตนนี้ก็เหมือนสัมภเวสี ที่ต้องการมีที่พักพิง กลับคืนถิ่นไม่มีใครว่า แต่ต้องมาประจำที่ศาลเสียก่อน ค่อยกลายเป็นคน อ้อ ศาลอาญานะ ไม่ใช่ศาลพระภูมิ
เดรัจฉาน จะไม่เลือกผู้อ่อนแอมาปกครอง
โอ๊ค นายด่าไอ้เอกเหรอ
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจหนีไม่พ้น การเดินเกมเพื่อหาทางกลับบ้านของ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องโทษและต้องหาคดีสำคัญหลายคดี ซึ่งถ้าตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องเล่นเกม นายทักษิณกลับมารับโทษและสู้คดีก็กลับบ้านได้แล้ว
อย่างที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ถึงคดีเอาไว้ว่า
- คดีหวยบนดิน/ทุจริตออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว จำคุก 2 ปี
- คดีปล่อยเงินกู้เอ็กซิมแบงก์ให้เมียนมา จำคุก 3 ปี
- คดีแก้ไขสัมปทานโทรศัพท์มือถือเอื้อชินคอร์ปฯ จำคุก 5 ปี
รวมทั้งสิ้น 10 ปี
แต่ดีใจด้วยที่คดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก จำคุก 2 ปี หมดอายุความไปแล้ว เพราะหนีคดีไปเกิน 10 ปีแล้ว ส่วนคดีแผนฟื้นฟูทีพีไอมิชอบ และคดีปล่อยเงินกู้ให้ ธ.กรุงไทยให้เครือกฤษดานคร ศาลท่านยกฟ้องให้แล้ว
แต่ยังเหลือคดีจงใจยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินอันเป็นเท็จ คดียังไม่ถึงที่สุด เพียงแต่ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว รอให้ท่านกลับมาสู้คดีครับ
ถ้าแน่จริงกลับมารับโทษแบบเท่ๆ ก่อนครับ
“ยินดีต้อนรับ “โทนี่” กลับไทย แต่ต้องเข้าคุกแบบเท่ๆ สัก 10 ปีเสียก่อนนะ ส่วนเรื่อง นิรโทษกรรม อย่าฝันเปียกเลย ถูกหลอกกินตังค์เปล่าๆ
แต่ถ้าจะไม่ยอมติดคุกแม้แต่วินาทีเดียว อย่างที่เจ้าตัวอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และต้องการแก้เกมด้วยการเมือง ก็ต้องทำให้ได้หลายเรื่องต่อไปนี้
ไม่ว่าจะเป็น แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพื่อให้เอื้อต่อการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย แต่ก็ต้องเสี่ยงกับการประท้วงของประชาชนเหมือนสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขอพระราชทานอภัยโทษเป็นกรณีพิเศษ เรื่องนี้เสี่ยงเสื่อมเสียถึงสถาบันด้วย และสุดท้าย เกิดการปฏิวัติประชาชนครั้งใหญ่ คล้ายปี 2475 แล้วถูกเลือกให้กลับมาเป็น “ผู้นำ” ของกลุ่มแกนนำปฏิวัติประชาชน เรื่องนี้มีหุ้นส่วนอย่างแน่นอน และพอทำสำเร็จก็อาจมีการหักหลังกัน เพราะแย่งตำแหน่งผู้นำก็เป็นได้ โดยคนคนนั้น “แอบ” อยู่หลังม็อบ 3 นิ้วอยู่แล้ว
ทั้งหมดอยู่ที่ “ทักษิณ” จะเลือก และเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต และอาจเดิมพันชีวิตทั้งชีวิตก็เป็นได้!?