วันนี้(18 ก.ค.)นายธวเดช ภาจิตรภิรมย์ หัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์โควิด- 19 โดยล่าสุดตัวเลขขึ้นสูงสุดครั้งใหม่หรือเป็นนิวไฮอีกครั้งโดยมี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11397 คน เสียชีวิต 101 คน ซึ่งคงต้องบอกว่ามียังมีตัวเลขที่ไม่ถูกนับเข้าระบบอีกจำนวนมาก ในกระทำในแบบที่เรียกว่าไม่ตรวจก็ไม่เจอ มีการเสียชีวิตคาเตียง คาบ้านที่ไม่ถูกนับรวม ดังที่มีหมอเคยเปิดเผยผลการตรวจเชื้อเจอภายหลังในตัวผู้เสียชีวิตนอกโรงพยาบาล ซึ่งการไม่ยอมรับปัญหาที่มีอยู่จริงและเผชิญหน้ากับมันอย่างตรงไปตรงมาก็คือปัญหาของรัฐบาลนี้
"เรื่องวัคซีนหมดหวังไปแล้วสำหรับปีนี้ นี่คือความผิดพลาดสำคัญที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขด้วยการไปหามาด้วยวิธีการใดก็ได้ภายใต้อำนาจของท่าน แต่อีกเรื่องหนึ่งที่พลาดมากๆตลอดมาคือการบริหารจัดการอย่างตรงจุดและตรงไปตรงมา ขณะนี้ใครๆก็เห็นกันชัดๆว่าระหว่างไม่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากพอ สิ่งที่ต้องทำคือการคัดกรอง ต้องรุกตรวจให้เร็ว จะเจอเลขติดเชื้อวันละแสนก็ไม่เป็นไร เพราะสิ่งสำคัญกว่าคือลดการเสียชีวิต ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือต้องคัดกรองคัดแยกผู้ติดเชื้อให้ได้โดยเร็วเพื่อรักษาไปตามลำดับอาการ เพิ่มโซนสีเขียวให้มาก เพื่อกักตัว ให้ยาตามอาการได้ทัน ให้เขากลับบ้านได้โดยไม่ต้องเป็นสีแดงแล้วจึงค่อยยืนยันว่าติดเชื้อ "นายธวเดช กล่าว
นายธวเดช กล่าวต่อว่า รัฐบาลใช้โอกาสเปล่าเปลืองเกินไป ล็อกดาวน์รอบก่อนที่ประกาศออกมาเหมือนแค่สะกดจิตตัวเองว่าทำงานอยู่ แต่สุดท้ายแค่เพิ่มความลำบากให้ร้านค้า ผู้ประกอบการ ซึ่งไม่มีผลอะไรเลยถ้าเพิ่มตัวเลขการรุกตรวจไม่ได้ ตัวชี้วัดสำคัญที่สุดคือ ขณะที่อนุญาตให้ใช้ Rapid Test ได้ แต่ถามว่าถึงตอนนี้ผ่านมากี่วันแล้วใครได้ใช้บ้าง ยังกระจุกแค่โรงพยายาลกับศูนย์ตรวจเช่นเดิม การหาพื้นที่กักตัวแยกตัว และโรงพยาบาลสนาม ถามว่ามีเพิ่มแค่ไหนในสถานการณ์รุนแรงขนาดนี้ แทบไม่มีข่าว เมื่อเชื้อยังกระจายได้ตลอดเวลา หาผู้ติดเชื้อไม่เจอเพราะไม่ยอมหา ไม่พยายามหาสถานที่รองรับก็เลยต้องกดตัวเลขไว้เรื่อยๆ สุดท้ายพอกดไม่อยู่ก็มาโทษว่าประชาชนการ์ดตก ประกาศล็อกดาวน์เข้มงวดขึ้นอีกดังที่มีข่าวออกมาล่าสุด ซึ่งจะกลายเป็นวงจรอุบาทว์แบบนี้เรื่อยไป หากรัฐบาลไม่เปลี่ยนวิธีคิด