กสม. เตรียมชงข้อเสนอเชิงระบบ ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ หลังลงพื้นที่ติดตามเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เผยลงพื้นที่ด้วยความกังวล เหตุกระทบสิทธิทุกเพศวัย
วันนี้ (8 ก.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ได้ชี้แจงถึงการลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานพลาสติกของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัดในซอยกิ่งแก้ว 21 จ.สมุทรปราการ ว่า กสม.ได้ติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยความห่วงกังวลเนื่องจากส่งผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนทุกเพศทุกวัยในหลายมิติ อาทิ สิทธิในสุขภาพ สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี และสิทธิชุมชน
จึงได้มอบหมายให้ นางปรีดา คงแป้น และน.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กสม. ลงพื้นที่รับทราบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ก.ค ที่ศูนย์อพยพองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางพลีใหญ่ และวัดบางพลีใหญ่กลาง เพื่อประสานการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบซึ่งได้รับทราบข้อมูลผลกระทบและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ แรงงานไทย แรงงานข้ามชาติ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ รวมถึงรับทราบการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากผู้แทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แทน อบต. บางพลีใหญ่ รวมทั้งจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้ได้รู้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนประมาณ 60,000 ครัวเรือน และจังหวัดสมุทรปราการได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพจำนวน 9 จุด ทั้งนี้มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาและทบทวนในหลายประเด็น อาทิ มาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ นโยบายการจัดทำผังเมืองที่เหมาะสม แนวทางการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชน รวมถึงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมโดยหน่วยงานรัฐ
“ที่ผ่านมา กสม. มักได้รับการร้องเรียนเรื่องผลกระทบต่อชุมชนจากชุมชนที่ตั้งมาก่อนการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรม แต่เหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานพลาสติกนี้ เป็นกรณีที่โรงงานอุตสาหกรรมตั้งมาก่อน แต่ก็สร้างความเสียหายให้ชุมชนอย่างรุนแรง ดังนั้น เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโรงงานอุตสาหกรรมในแหล่งชุมชนพื้นที่อื่น ๆ กสม. จะติดตามกรณีปัญหานี้เพื่อเสนอเป็นรายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย กลไกการบริหารจัดการ และการแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างต่อไป”