วันนี้ (6 ก.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ป่วยที่รอรับการรักษาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดังนั้น ตามนโยบายนายกฯ ทางภาครัฐจึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม (ชั่วคราว) เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ประกอบกับพื้นที่ที่ตั้งของโรงพยาบาลบุษราคัม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะหมดสัญญาเช่าพื้นที่ในเดือนสิงหาคมนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ประสานมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อขอพื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมมาเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วย
โดยวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจพื้นที่อาคารเทียบเครื่องรองหลังที่ 1 หรือ SAT1 สนามบินสุวรรณภูมิได้ข้อสรุปจากทาง สธ. ว่า พื้นที่ SAT1 เหมาะสมที่จะทำโรงพยาบาลสนาม โดยใช้พื้นที่ประมาณ 1 แสนตารางเมตร ซึ่งจะเป็นพื้นที่เตียงผู้ป่วยได้อย่างน้อย 5,000 เตียงในระยะแรก โดยจะใช้พื้นที่ชั้น 2 เป็นสถานที่ทำการของแพทย์และห้อง ICU ส่วนชั้น 3และ 4 เป็นพื้นที่สำหรับคนไข้สีเขียวและเหลือจะเริ่มเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนสิงหาคมนี้
ดังนั้น จึงได้มีนโยบายสั่งการให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จัดปรับพื้นที่อาคารเทียบเครื่องรองหลังที่ 1 หรือ SAT1 สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 4ชั้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 216,000 ตารางเมตร และก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ มีระบบปรับอากาศ น้ำประปาพร้อมแล้ว และยังไม่เปิดใช้งาน ปรับมาเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด คาดว่าจะรองรับผู้ป่วยได้มากกว่าโรงพยาบาลบุษราคัมกว่า 3เท่า โดยทางกระทรวงสาธารณสุข จะเข้าไปสำรวจพื้นที่ เบื้องต้นหากมีการปรับเป็นโรงพยาบาลสนามจะต้องปรับพื้นที่เพิ่มเติม เป็นห้องอาบน้ำ ตลอดจนเพิ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เข้าไปในสถานที่