“สมบูรณ์” ป้อง “ชวน” ไม่เคยเบียดบังงบมีแต่ช่วยประหยัด ไล่ “เรืองไกร” ทำหน้าที่ กมธ.งบให้ดี

เลขา ปธ.สภาฯ ออกโรงป้อง “ชวน” ไม่เคยเบียดบังงบหลวง มีแต่ช่วยประหยัดงบซื้อรถประจำตำแหน่งถึง 5 ล.กว่า ใช้รถประจำตำแหน่งถูกต้องตามระเบียบ ไล่ “เรืองไกร” ไปทำหน้าที่ กมธ.งบ 65 ให้ดี ติงตรวจสอบในสิ่งที่ควรตรวจสอบ

วันนี้ (28 มิ.ย.) นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบการใช้รถประจำตำแหน่งของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นการให้ข่าวเหมือนนายชวนเอารถประจำตำแหน่งไปใช้ส่วนตัวเป็นการเบียดบังประโยชน์กับทางราชการ ขอชี้แจงเป็นประเด็น ดังนี้ ยามบ้านเมืองเกิดวิกฤตประชาชนแต่ละจังหวัดต้องต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 นายชวนในฐานะประธานฝ่ายนิติบัญญัติ จึงเดินทางไปให้กำลังใจและพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในแต่ละจังหวัด ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่จำเป็นและเหมาะสมแก่การดำรงตำแหน่งหน้าที่ของประธานสภาฯ และนายชวนไม่ได้เบียดบังราชการมีแต่ประหยัดงบประมาณให้กับทางราชการ

“การประหยัดงบประมาณในเรื่องของรถประจำตำแหน่ง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งงบประมาณในปี 2564 เพื่อซื้อรถประจำตำแหน่งให้กับประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยตั้งงบประมาณคันละ 7.5 ล้านบาท แต่ประธานฯเห็นว่าเพื่อประหยัดงบประมาณซึ่งเป็นภาษีประชาชนให้จัดซื้อเพียงแค่พอประมาณ สภาฯ จึงจัดซื้อรถตู้เท่านั้นในวงเงินงบประมาณ 2.2 ล้านบาท ทำให้ประเทศประหยัดงบประมาณของแผ่นดินได้ถึง 5.3 ล้านบาท นี่คือสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าประธานสภาฯ ไม่ได้เบียดบังเอางบประมาณของรัฐมาเป็นประโยชน์ส่วนตัว และหากศึกษาประวัติการทำงานของ นายชวน เมื่อสมัยเป็น รมว.กลาโหม ท่านยังคืนเงิน 7.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินราชการลับคืนให้กับทางราชการ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่านายชวนเป็นคนซื่อสัตย์ ทุ่มเท อุทิศให้กับราชการตลอดมา

“ฉะนั้น ขอให้ นายเรืองไกร ไปทำหน้าที่ตรวจสอบในสิ่งที่ควรตรวจสอบ โดยเฉพาะ เป็นกรรมาธิการงบประมาณปี 65 ควรทำหน้าที่ตรวจสอบที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ประชาชน”

นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า การนำรถราชการไปใช้งานมูลนิธิฯ นั้น ขอชี้แจงว่าการเดินทางในครั้งนี้ เป็นการใช้รถประจำตำแหน่งเดินทางไปราชการ ในฐานะประธาน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือว่าถูกต้องตามระเบียบของราชการทุกประการ ส่วนการมอบหน้ากากอนามัย ในนามประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคมนั้น เนื่องจากมีผู้มีจิตศรัทธา มอบผ่านนายชวน ในฐานะประธานมูลนิธิฯนำไปมอบให้ประชาชนโดยตรง