ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “ลุงตู่” เรตติ้งสาละวันเตี้ยลง อยู่มา 7 ปี จะไปต่อเหนื่อยหนักแน่ โพลเช็กความนิยมการเมืองวันนี้ เห็นว่า “ไม่มีคนเหมาะนั่งนายกฯ” แถมไม่เลือกพรรคไหนอีกต่างหาก
น่าสนใจขึ้นมาหลังข่าวความเคลื่อนไหวการเมืองบางกระแส ว่า รัฐบาลอาจจะอยู่ไม่ครบเทอม หรืออย่างมากไม่เกิน 9 เดือนหลังจากนี้ จะ “ยุบสภา” ให้มีการเลือกตั้งกันใหม่ เห็นได้จากการช่วงชิงจังหวะปรับทัพของพรรคใหญ่ อย่าง “พลังประชารัฐ” ที่สอดคล้องกับท่าทีของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กระตุ้นคณะรัฐมนตรีเร่งทำผลงาน พร้อมๆ กับประกาศแคมเปญคิกออฟเปิดประเทศภายใน 120 วัน ฝ่าวิกฤตผลงานโควิด
จังหวะนี้พอดีกับ “นิด้าโพล” หรือศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2564” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-16 มิถุนายน 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ว่าด้วยการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง เรียกว่า มาวัดเรตติ้งกันไปเลย
เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ก็พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 37.65 ระบุว่า “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้” อันดับ 2 ร้อยละ 19.32 ระบุว่าเป็น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อันดับ 3 ร้อยละ 13.64 ระบุว่า เป็น “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” อันดับ 4 ร้อยละ 8.71 ระบุว่า เป็น “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” อันดับ 5 ร้อยละ 5.45 ระบุว่า เป็น “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อันดับ 6 ร้อยละ 3.62 ระบุว่า เป็น “นายกรณ์ จาติกวณิช” (พรรคกล้า) อันดับ 7 ร้อยละ 2.35 ระบุว่า เป็น “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” อันดับ 8 ร้อยละ 2.15 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ อันดับ 9 ร้อยละ 2.11 ระบุว่า เป็น “นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” และ อันดับ 10 ร้อยละ 1.47 ระบุว่า “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์”
นอกนั้น ร้อยละ 3.53 ระบุเป็นคนอื่นๆ ได้แก่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชวน หลีกภัย นายเนวิน ชิดชอบ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ นายวิษณุ เครืองาม ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และ นายอานันท์ ปันยารชุน
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/64 เดือนมีนาคม 2564 พบว่า “ลุงตู่” คะแนนนิยมตกลง กองหนุนผู้เคยให้ความเห็นชื่นชอบลดลง เช่นเดียวกับ ฝ่ายค้าน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ก็มีสัดส่วนลดลงเช่นกัน
ในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
เมื่อถามถึง “พรรคการเมือง” ที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.68 ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย 2 ร้อยละ 19.48 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 14.51 ระบุว่า พรรคก้าวไกล
ขณะที่ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ที่เพิ่งปรับทัพใหม่ เข้ามาอันดับ 4 ร้อยละ 10.70
นี่เห็นโพลออกมาแบบนี้ก็เหนื่อยแทนลุงๆ ที่ต้องบอกว่า “คะแนนนิยม” สาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ นับแต่ปฏิวัติเข้าสู้อำนาจมากว่า 7 ปีแล้ว หากคิดจะกลับมาครองอำนาจ “ไปต่อ” อีกครั้ง ก็ต้องออกแรงเหงื่อตกกีบกันละงานนี้
** “ดิว-เซบาสเตียน” ที่สำนึกผิดจัดชุดใหญ่ ขนข้าวสาร-อาหารแห้ง มอบชาวบ้าน 750 ครัวเรือน ขอโทษดรามาพลุวันเกิดกลางดึกแต่ฝ่ายปกครองเงียบกริบ!
จากกรณีดรามา “พลุวันเกิด” ของนักแสดงสาว “ดิว” อริสรา ทองบริสุทธิ์ ที่แฟนหนุ่ม “เซบาสเตียน ลี” นักธุรกิจชาวไต้หวันจ้างออแกไนซ์ จุดพลุเซอร์ไพรส์ อย่างอลังการงานสร้างกลางแม่น้ำ ที่บางปะอิน จ.อยุธยา กลางดึกค่ำคืนวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงสะท้อนของชาวบ้าน และสัตว์เลี้ยงละแวกนั้นที่แตกตื่นตกใจ ได้รับผลกระทบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ดรามานี้ถกเถียงกันไปต่างๆ นานา ถึงความเหมาะสม และมารยาทของเจ้าของงาน ขณะเดียวกัน ก็มองว่า เป็นความผิดและรับผิดชอบของฝ่ายปกครองและโรงแรม... “ดิว อริสรา” ไม่ได้ผิดอะไร เธอเป็นคนถูกทำเซอร์ไพรส์ และแฟนหนุ่มของเธอก็ทำเรื่องขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว หากจะกล่าวโทษ ก็ต้องโทษฝ่ายปกครองหรืออำเภอ คนอนุมัติว่า ทำไมอนุญาตให้จุดพลุในยามวิกาล และโรงแรม ทำไมไม่แจ้งคนในพื้นที่ก่อน
ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบลงด้วยดี เมื่อ “ดิว อริสรา” พร้อม “เซบาสเตียน ลี” และเจ้าหน้าที่โรงแรม เดินลงพื้นที่ขอโทษชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับบอกว่ายินดีรับผิดชอบความเดือดร้อนทั้งหมด
ฟังว่า “ดิว และแฟนหนุ่ม” จัดข้าวของ ข้าวสาร-อาหารแห้ง-น้ำดื่ม จำนวนมาก แนบโปสการ์ดของดาราสาวดิวแทนคำขอโทษ มอบให้ชาวบ้านกว่า 750 ครัวเรือนในละแวกใกล้เคียงโรงแรมที่จัดงานคืนนั้น
ดรามาเรื่องนี้ก็เป็นอันยุติไปด้วยดี ก็ดีใจด้วยกับดาราสาวและแฟนหนุ่มชาวไต้หวัน ที่สำนึกผิดและแก้ไขอย่างรวดเร็วน่าชื่นชม ซึ่งทั้งคู่คงจะได้บทเรียนสำคัญของการอยู่ร่วมกันของสังคมไทย ถ้อยทีถ้อยอาศัย พร้อมให้อภัยกันแบบไทยๆ เสมอ
ยกเว้นฝ่ายปกครองที่งานนี้ “เงียบกริบ” ไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวออกมาขอโทษประชาชนแต่อย่างใด