“ทิพานัน” ขอบคุณนายกฯ ห่วงใยแก้ไขปัญหาหนี้สินพี่น้องประชาชนรายย่อยทุกกลุ่ม เชื่อยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิต ป้องกันและลดปัญหาการตกเป็นเหยื่อแอพฯเงินกู้เถื่อน ชี้คนละครึ่งเฟส3 แบ่งเบาภาระ กระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ (15 มิ.ย.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ภายหลังตนได้ออกมาสะท้อนปัญหาของพี่น้องประชาชนในชุมชนต่างๆของเขตจอมทอง-ธนบุรี ที่ตกเป็นเหยื่อแอพพลิเคชั่นเงินกู้เถื่อน กู้หนี้นอกระบบระบาดอย่างหนัก พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ล่าสุดต้องขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ห่วงใยปัญหาหนี้สินของพี่น้องประชาชนรายย่อย โดยได้เรียกประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ โดยกำหนดมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับมาตรการระยะสั้น เช่น การไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สินเพื่อลดการดำเนินคดีกับประชาชน เช่น หนี้ กยศ. หนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หนี้สหกรณ์ การลดภาระดอกเบี้ยของประชาชน ทั้งในส่วนสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และนาโนไฟแนนซ์สำหรับประชาชน ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของครูและข้าราชการ รวมถึงสหกรณ์ ปรับรูปแบบการชำระหนี้ รวมถึงปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ธปท. ทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ยและการกำกับดูแลบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียน โดยกำกับดูแลไม่ให้การบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อของสถาบันการเงิน/สหกรณ์สร้างภาระแก่ผู้กู้จนเกินสมควร เพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนามย่อม (SMEs) การเพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและโรงรับจำนอง เป็นต้น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนมาตรการระยะยาว หลักการสำคัญ คือต้องทำให้เกิดสภาพแวดล้อมของการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย และมีการคุมยอดวงเงินกู้ที่เหมาะสม เร่งส่งเสริมการแข่งขันให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง เพิ่มระบบให้ผู้ฝากเงินมาเป็นผู้ให้สินเชื่อโดยรับความเสี่ยงมากขึ้นผ่านระบบดิจิทัล การจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพื่อกำกับดูแลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อรายย่อยเป็นการเฉพาะ การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงิน เพื่อชะลอการฟ้อง อำนวยความสะดวกให้การฟื้นฟูหนี้รายบุคคลที่มีเจ้าหนี้หลายราย
“เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว และเชื่อว่าหากดำเนินการตามมาตรการนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวจะช่วยให้พี่น้องประชาชนแบ่งเบาภาระหนี้สิน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ถูกกฎหมายได้ง่ายขึ้นและดอกเบี้ยเป็นธรรม จะช่วยป้องกันและลดปัญหาการกู้เงินนอกระบบของพี่น้องประชาชน ไม่หลงเป็นเหยื่อแอพพลิเคชันเงินกู้เถื่อน ที่ทำให้ประชาชนต้องแบกภาระดอกเบี้ยโหดและถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งในด้านข้อมูล ลดความเสี่ยงที่จะถูกละเมิด ถูกหลอกลวงให้สูญเงินเปล่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตประชาชน”น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องที่นักการเมืองทุกคนต้องช่วยกันส่งต่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ให้เข้าถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งเป็นประโยชน์ในการช่วยกันประคับประคองกันในช่วงวิกฤติเช่นนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเด็กรุ่นใหม่และคนเกษียณที่มีภาระหนี้สิน โดยจะออกมาตรการเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย เรื่องที่อยู่อาศัย และค่า เดินทางระบบขนส่งมวลชนในราคาถูก ซึ่งมาตรการต่างๆที่จะออกมานั้น เมื่อผนวกกับโครงการคนละครึ่งเฟส3 ที่ขณะนี้มีข้อมูลวันที่ 14 มิ.ย.มีประชาชนลงทะเบียนแล้วกว่า 23.11 ล้านคน ซึ่งจะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้จะช่วยแบ่งเบาภาระของพี่น้องประชาชนและจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ