xs
xsm
sm
md
lg

ซิงเกิลคอมมานด์ช่วยไขปริศนาที รหัสลับ “รุ่งเรือง” ไฮโซ ไฮซ้อพริตตี้ดัง แห่แซงคิวฉีดวัคซีน ** เพลียแทน “ลุงตู่” เมื่อ “บิ๊กติ๊ก” น้องชายติดบ่วง ป.ป.ช. ยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ซิงเกิลคอมมานด์ช่วยไขปริศนาที รหัสลับ “รุ่งเรือง” ไฮโซ ไฮซ้อพริตตี้ดัง แห่แซงคิวฉีดวัคซีนก่อนชาวบ้านโผล่ประจาน...แบบนี้ก็ได้เหรอ

เพิ่งเปิด Kick off วาระฉีดวัคซีนแห่งชาติไปหมาดๆ พร้อมกับคำกล่าวขออภัยในความไม่สะดวกต่อประชาชนของ “ลุงตู่” ที่ดูเหมือนจะรู้ เสียงสะท้อนที่ “Single Command” บริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์การจัดสรรโควตาวัคซีนที่มากน้อยต่างกัน เหลื่อมล้ำ เลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชัง แถมยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า กลุ่มการเมืองกักโควตาไว้ให้คนของตัวเองเพื่อทำคะแนนเสียง ดังกระหึ่ม พลันนี้ก็มีไวรัลทางโซเชียลฯ อันเนื่องมาจาก “รหัสลับ รุ่งเรือง” ตีคู่กันมา อื้ออึงไปทั่วโลกออนไลน์

อันว่า “รหัสลับ รุ่งเรือง” นั้นว่ากันว่า เป็นโค้ดที่กลุ่มวีวีไอพีระดับ ไฮโซ ไฮซ้อ คุณหญิง คุณนาย บางคนก็เป็นพริตตี้ชื่อดัง ซึ่งต้องบอกว่าล้วนเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมที่ไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับการฉีดวัคซีนในระบบเหมือนคนทั่วไป รวมถึงไม่ใช่กลุ่มที่เข้าข่ายได้รับการฉีดวัคซีนในกรณีพิเศษ และแน่นอนไม่ใช่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ อสม. หรือกลุ่มเสี่ยง หากแต่เป็น “อภิสิทธิ์ชน” นั่งรถหรูหราไปที่ รพ.ศรีธัญญา ซึ่งมีรายงานว่า มีคนมาต้อนรับขับสู้ดูแลกันอย่างดี

นริศโรจน์ เฟื่องระบิล
กติกาง่ายๆ เพื่อรับการฉีดวัคซีนก่อนใคร แค่ประกาศรหัสลับว่า “รุ่งเรือง” พร้อมกับแสดงบัตรประชาชน ก็สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนแบบชิลล์ๆ

เรื่องนี้ถูกขยายต่อจาก “นริศโรจน์ เฟื่องระบิล” อดีตเอกอัครราชทูตไทย ซึ่งได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยรัฐมาตลอดนะ แต่ต้องยอมรับความจริงกันบ้างเถอะว่า มันมีความผิดพลาดที่มาจาก “อภิสิทธิ์ชน” จริงๆ (ผมยืนยันได้เพราะเจ้าตัวเล่าให้ผมฟังเองว่าเขาได้ฉีดโดยไม่ได้เข้าแอปฯใดๆ) เอาเหอะ เรื่องแบบนี้ ถ้าใครจะหลับหูหลับตาไม่ยอมรับคำเตือนกันบ้างเลย แล้วปล่อยให้เป็นปัญหาคาใจกับคนที่เขาทำตามกติกาทุกอย่าง มันก็ห้ามความรู้สึกของคนที่เขาตั้งความหวัง แล้ว “ผิดหวัง” ในช่วงวิกฤตรุนแรงระดับโลกแบบนี้ไม่ได้หรอก เพราะทุกวัน ทุกนาที มันคือความเป็นความตาย ใครๆ ก็อยากรอดกันทั้งนั้น !

ผมยังเป็นมนุษย์ปุถุชน ไม่ใช่พระที่บรรลุอรหันต์แล้วถึงจะปล่อยวางได้ !!! ใครหวังดีโลกสวย อยากอวยก็อวยกันไปเถิด ! แต่ผมกลับมองว่าอะไรที่ควรเตือนเพื่อให้แก้ไขได้ต้องรีบทำ !!! อย่าปล่อยให้ศรัทธาของคนเสื่อมโดยไม่จำเป็น !!! ผมไม่ใช่ประเภทนั่งอวยกันอยู่แต่ในห้อง echo chamber แล้วคอยบอกคนอื่นว่า “ใจเย็นๆ นะ คิดถึงส่วนรวมนะ” แล้วก็นั่งมองอภิสิทธิ์ชนแทรก/แซงคิวผ่านหน้าคนอื่นไปแบบนี้ ผมทนโลกสวยไม่ไหว

ครับ !!!! กติกาต้องเป็นกติกา ถ้าไม่ทำตามกติกา ก็ต้องยอมรับคำตำหนิติเตียนให้ได้เช่นกัน !

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หลังโพสต์นี่แพร่กระจายไปทั่วเน็ต ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นกว้างขวาง ส่วนใหญ่แสดงความรังเกียจต่อพฤติกรรมต่อกลุ่ม VVIP...แบบนี่ก็ได้หรือ !?
หลายๆ คนก็ถามหาความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐที่จัดรหัสลับรุ่งเรือง แก่คนกลุ่มนี้ใช้อะไรคิด ห้วงเวลาแห่งวิกฤตโควิดเรื่องทำนองนี้ไม่ควรเกิดขึ้น
ต้องไม่ลืมว่า วัคซีนเป็นประโยชน์สาธารณะที่ประชาชนไม่ว่าชนชั้นใดก็ควรได้รับสิทธิเท่าเทียม วัคซีนแต่ละเข็ม เงินงบประมาณของรัฐแต่ละบาท หมายถึงชีวิตความเป็นอยู่ในการต่อสู้โรคภัยที่ร้ายแรงนี้ ใครที่กระทำการเพื่อเอื้อพวกพ้อง สมควรถูกประณาม ลากออกมาประจานให้สังคมได้รับรู้กัน
งานนี้ต้องวาน “ซิงเกิล คอมมานด์” ช่วยไขปริศนาทีว่า รหัสลับรุ่งเรืองนี้ ..ฝีมือใคร !?


** เพลียแทน “ลุงตู่” เมื่อ “บิ๊กติ๊ก” น้องชายติดบ่วง ป.ป.ช. ถูกองค์คณะไต่สวนแจ้งข้อกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ

พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา
เป็นประเด็นร้อนประจำวัน เมื่อมีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ 9-0 ชี้มูลความผิด “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ!!

ล่าสุด “นิวัติไชย เกษมมงคล” รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน กรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีมติชี้มูลความผิด...เป็นแค่มติองค์คณะไต่สวนที่เห็นว่า มีมูล มีน้ำหนัก มีความผิดปกติ จึงแจ้งข้อกล่าวหา “บิ๊กติ๊ก” เพื่อเปิดโอกาสให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หลังจากนั้น จึงจะสรุปสำนวน เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. วินิจฉัยอีกครั้งหนึ่งว่าจะชี้มูลความผิดหรือไม่
เป็นอันว่า “บิ๊กติ๊ก” ยังติดบ่วง ป.ป.ช.อยู่

บัญชีทรัพย์สินของ “พล.อ.ปรีชา” ที่เป็นปัญหานี้ ยื่นเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปี 2557 ซึ่งขณะนั้น พล.อ.ปรีชา ยังเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ถูกตั้งข้อสังเกตว่า มีการแจ้งบัญชีเงินฝากไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ทั้งของตนเองและของ “ผ่องพรรณ จันทร์โอชา” ภรรยา และไม่ได้แจ้งรายการบ้านพักที่ จ.พิษณุโลก

เรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบพบว่าการยื่นบัญชีเงินฝากของ พล.อ.ปรีชา แจ้งยอดเงินฝากทั้งหมด 42,051,468 บาทซึ่งจากการตรวจสอบแล้วน่าจะเป็น 42,423,578 บาท ขณะที่บัญชีของ “ผ่องพรรณ” แจ้งไว้ ประมาณ 46 ล้านบาท ซึ่งที่จริงน่าจะเป็นประมาณ 58 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังแจ้งบัญชีเงินฝากของกองทัพ ซึ่ง พล.อ.ปรีชา เป็นผู้มีอำนาจลงนามร่วมมาด้วย

พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา
เป็นประเด็นร้อนประจำวัน เมื่อมีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ 9-0 ชี้มูลความผิด “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชาย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ!!

ล่าสุด “นิวัติไชย เกษมมงคล” รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน กรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีมติชี้มูลความผิด...เป็นแค่มติองค์คณะไต่สวนที่เห็นว่า มีมูล มีน้ำหนัก มีความผิดปกติ จึงแจ้งข้อกล่าวหา “บิ๊กติ๊ก” เพื่อเปิดโอกาสให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หลังจากนั้น จึงจะสรุปสำนวน เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. วินิจฉัยอีกครั้งหนึ่งว่าจะชี้มูลความผิดหรือไม่
เป็นอันว่า “บิ๊กติ๊ก” ยังติดบ่วง ป.ป.ช.อยู่

บัญชีทรัพย์สินของ “พล.อ.ปรีชา” ที่เป็นปัญหานี้ ยื่นเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปี 2557 ซึ่งขณะนั้น พล.อ.ปรีชา ยังเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ถูกตั้งข้อสังเกตว่า มีการแจ้งบัญชีเงินฝากไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ทั้งของตนเองและของ “ผ่องพรรณ จันทร์โอชา” ภรรยา และไม่ได้แจ้งรายการบ้านพักที่ จ.พิษณุโลก

เรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบพบว่าการยื่นบัญชีเงินฝากของ พล.อ.ปรีชา แจ้งยอดเงินฝากทั้งหมด 42,051,468 บาทซึ่งจากการตรวจสอบแล้วน่าจะเป็น 42,423,578 บาท ขณะที่บัญชีของ “ผ่องพรรณ” แจ้งไว้ ประมาณ 46 ล้านบาท ซึ่งที่จริงน่าจะเป็นประมาณ 58 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังแจ้งบัญชีเงินฝากของกองทัพ ซึ่ง พล.อ.ปรีชา เป็นผู้มีอำนาจลงนามร่วมมาด้วย

ผ่องพรรณ จันทร์โอชา
อีกทั้งตามแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของ “ผ่องพรรณ” เมื่อปี 2556 ระบุว่า ไม่มีรายได้ และไม่ได้ประกอบธุรกิจแต่อย่างใด แต่ในบัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ กองทัพภาคที่ 3 ของ “ผ่องพรรณ” จำนวน 5 บัญชี รวมวงเงิน 46,995,296 บาท และในช่วงปี 2557 พบว่า มีเงินไหลเวียนเข้าออกใน 5 บัญชีดังกล่าว จำนวนหลายสิบล้านบาท จึงถูกตั้งข้อสังเกตนอกจากแจ้งบัญชีไม่ครบถ้วนแล้วยัง “ร่ำรวยผิดปกติ” หรือไม่

ส่วนบ้านที่ จ.พิษณุโลก นั้น “พล.อ.ปรีชา” เคยชี้แจงผ่านสื่อว่า บ้านหลังดังกล่าวปลูกบนที่ดินประมาณ 1 ไร่เศษ ก่อสร้างยังไม่เสร็จ ยังไม่มีเลขที่บ้าน จึงยังไม่ได้แจ้ง และเตรียมจะดำเนินการแจ้งต่อ ป.ป.ช.ไม่ได้มีเจตนาปกปิดแต่อย่างใด
เมื่อองค์คณะแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ “บิ๊กติ๊ก” บอกว่า ก็พร้อมจะชี้แจง ทั้งที่เคยชี้แจงไปก่อนหน้านี้หมดแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา จากนั้นก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คนในครอบครัวของ “บิ๊กติ๊ก” ตกเป็นข่าวและถูกวิพากษ์วิจารณ์มาเป็นระยะๆ อย่างเช่น กรณี ของ “ผ่องพรรณ” เคยมีประเด็นภาพเปิดฝายชะลอน้ำ ที่อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 59 ซึ่งในโลกออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์ถึงการตั้งชื่อ “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ว่าไม่เหมาะสม แต่ก็ได้รับการชี้แจงว่า การตั้งชื่อฝายนั้น ปกติชาวบ้านในพื้นที่ เรียกตามภาษาพื้นเมือง เช่น พ่ออุ๊ย แม่อุ๊ย ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” เพราะจำง่าย

นอกจากนี้ ยังมีกรณีของลูกชาย “บิ๊กติ๊ก” ชนะประมูลงานก่อสร้างอาคาร ของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 14 ภายใต้สังกัดกองทัพภาคที่ 3 วงเงิน 11 ล้านบาท และยังมีการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) วงเงิน 124 ล้านบาทด้วย...ที่ถูกวิพากษวิจารณ์เพราะเป็นการประมูลงานกับภาครัฐ และบริษัทก็ตั้งมาประมาณปีเดียว

ซึ่งเสียงวิพากวิจารณ์เหล่านี้ “บิ๊กติ๊ก” บอกว่าเป็นเรื่องปกติ ที่จะถูกจับจ้องเพราะเขานามสกุล “จันทร์โอชา”
แต่ในมุมมองของสังคม การที่ “บิ๊กติ๊ก” จากตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เป็น สนช. เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา มิใช่เพราะมีนามสกุล “จันทร์โอชา” ดอกหรือ !?
เห็นอย่างนี้แล้วเพลียแทนลุงจริงๆ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น