วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 เพิ่มเติม วงเงิน 5 แสนล้านบาท ว่า จะสามารถส่งให้สภาผู้แทนราษฎรได้ใน 1-2 วันนี้ เพื่อเตรียมบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ขึ้นอยู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า จะคิดเห็นเป็นอย่างไร และสมควรจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระในวันใด ซึ่งก็รับทราบว่าจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ก่อน ในวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย.หากเห็นว่าพระราชกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการเงิน มีความเร่งด่วน ก็สามารถที่จะประชุมกันในวันที่ 4 มิ.ย. แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางสภาผู้แทนราษฎร
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า พระราชกำหนดกู้เงินดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 แต่ถ้าสภาผู้แทนราษฎรได้มีการบรรจุระเบียบวาระเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ร่างพระราชกำหนดต้องถูกบรรจุในลำดับถัดไป ส่วนตัวเห็นว่า ฝ่ายค้านมีระยะเวลาในการที่จะศึกษาเตรียมตัวที่จะอภิปราย โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์ รมว.คลัง จะเป็นผู้ชี้แจงหลัก และ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ของนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นผู้ชี้แจงเสริม ทั้งนี้ หากพระราชกำหนดดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่เกิดปัญหา เพราะพระราชกำหนดดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว
เมื่อถามอีกว่า พระราชกำหนดดังกล่าวถือเป็นกฎหมายการเงิน หากไม่ผ่านเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นายกรัฐมนตรีจะต้องยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ถูกต้อง ถือเป็นธรรมเนียม เมื่อย้ำอีกว่าแต่ขณะนี้เสียงของสภาผู้แทนราษฎรในส่วนพอรัฐบาลยังมีความเหนียวแน่นไม่น่าจะส่งผลต่อการโหวตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าว จะต้องไปสอบถามฝ่ายการเมือง และฝ่ายค้านดู