รมว.ดีอีเอสชี้เพจดัง “แหม่มโพธิ์ดำ” ตัดต่อภาพ “รพ.บุษราคัม” เทียบ “รพ.สนามพิมรี่พาย” บิดเบือนงบโจมตี รบ. แจงรูปแบบ “รพ.บุษราคัม” เป็น “รพ.ถาวร” อุปกรณ์การแพทย์ตรงตามมาตรฐาน เชื่อ สธ.แจงงบได้หมด สั่งตรวจสอบดำเนินคดีปล่อยเฟกนิวส์
วันนี้ (17 พ.ค.) จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูลเรื่องงบประมาณจัดทำโรงพยาบาลบุษราคัม พร้อมกับตัดต่อภาพประกอบ ว่าใช้งบประมาณ 239,280,000 บาท สามารถรองรับได้ 1,092 เตียง ตกเตียงละ 220,000 บาท พร้อมกับเปรียบเทียบโรงพยาบาลสนามของพิมรี่พาย ที่ใช้งบประมาณ 170,000 บาท แต่ได้ถึง 50 เตียง ตกเตียงละ 3,400 บาท จนเกิดเสียงวิจารณ์กว้างขวางนั้น
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ตรวจสอบพบว่ามีความพยายามเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิดถึงการดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของรัฐบาล โดยในส่วนของคุณพิมรี่พายที่นำเงินส่วนตัวมาสร้างโรงพยาบาลสนามถือเป็นสิ่งที่ดีที่ได้เสียสละช่วยประชาชนในยามลำบาก รัฐบาลก็ต้องขอบคุณถึงความตั้งใจอันดี เช่นเดียวกับอีกหลายๆ คนที่ร่วมช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยตามกำลังหรือความสามารถที่พอจะช่วยได้
“ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนต่างมีความตั้งใจดีเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤตโดยเร็ว แต่กลับมีขบวนการที่ไม่หวังดีนำมาเปรียบเทียบ บิดเบือน เพื่อต้องการให้เกิดความแตกแยกขัดแย้ง” นายชัยวุฒิกล่าว
นายชัยวุฒิกล่าวว่า โรงพยาบาลบุษราคัมที่มีข้อสังเกตเรื่องงบประมาณนั้น จัดตั้งในลักษณะโรงพยาบาลถาวรที่มีมาตรฐาน มีความพร้อมทางการแพทย์ มีอุปกรณ์เครื่องมือดูแลผู้ติดเชื้ออย่างครบครัน มีระบบการดูแลความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์จากหลายจังหวัดจำนวนมาก สับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขสามารถชี้แจงรายละเอียดหรืองบประมาณได้ทั้งหมด อีกทั้งภาพที่มีการแชร์เปรียบเทียบในขณะนี้ก็เป็นภาพเก่า ช่วงที่มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับกลุ่มเสี่ยงเพื่อสังเกตอาการ และเป็นการจัดตั้งในภาวะฉุกเฉิน ก่อนที่จะมีการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานในภายหลัง
“ในช่วงที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกันเอาชนะโควิด-19 แต่กลับมีผู้ไม่ประสงค์ดีต้องการสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคม ทางกระทรวงฯ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวเหล่านี้มาโดยตลอด ขอให้ผู้ที่เป็นต้นตอหรือมีส่วนกับการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวดำเนินการลบโพสต์โดยด่วน และชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้สังคมรับทราบ มิเช่นนั้นกระทรวงดีอีเอสอาจต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อไป” รมว.ชัยวุฒิระบุ