วันนี้ (17 พ.ค.) นายธวเดช ภาจิตรภิรมย์ หัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ กล่าวว่า ถึงกับงงต่อกรณีการจัดการสถานการณ์โควิด 19 ในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพราะมีโรงงานนายหัวคนหนึ่ง รู้ว่ามีคนติดโควิดตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ไม่มีการสั่งปิดเพื่อควบคุมโรค ทั้งที่สถานการณ์ในสงขลาก็ไม่ใช่ว่าปกติ มีการพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและใกล้ช่วงเทศกาลรายอ เรื่องนี้จึงต้องวอน นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วยตอบสักหน่อย เพราะคุ้นๆว่าจะนามสกุลคล้ายผู้เกี่ยวข้องกับโรงงาน หรืออย่างน้อยก็น่าจะถามผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นผู้รับผิดชอบสถานการณ์ได้ เพราะอยู่ในการดูแลของกระทรวงท่าน เท่าที่ทราบ บางแห่งพบผู้ติดเชื้อแค่คนเดียวก็สั่งปิดไปเลย แต่พอเป็นโรงงานแห่งนี้ซึ่งมีคนเป้นพันอยู่รวมกัน กว่าจะสั่งปิดก็คือพบผู้ติดเชื้อไปแล้ว 64 ราย อยากทราบว่านี่เป็นแนวทางใหม่ในการควบคุมการกระจายเชื้อในจังหวัดสงขลา ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทยหรืออย่างไร
“โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานปลากระป๋องและแปรรูปอาหารทะเลใน ต.นาทับ อ.จะนะ จังหวัดสงขลา พบผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.2564 และพบต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนั้น โดยมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกไปแล้ว 452 ราย ผลตรวจพบว่า พนักงานโรงงานติดเชื้อทั้งสิ้น 64 คน ที่น่ากัวลคือก่อนหน้านี้ หากใครอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ก็จะรู้จักวันหยุดรายอของพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น หากโรงงานและผู้บริหารสถานการณ์มีความตระหนักก็ควรจะสั่งหยุดเพื่อดำเนินมาตรการกักตัวและคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น เดียวกับกรณีตลาดกิมหยงที่พบผู้ติดเชื้อรายเดียวก็สั่งผิดตลาดทันที 3 วัน การปล่อยผ่านทำให้พนักงานส่วนหนึ่งเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุดรายอ โดยที่ยังมีความเสี่ยง กลายเป็นฝ่ายสาธารณสุขต้อทำงานเชิงรุกกันหนัก สถานการณ์แบบนี้ผู้เกี่ยวข้องก็ควรบริหารจัดการช่วยบ้าง ไม่ใช่มองว่าเกิดเหตุแล้วเดี๋ยวทีมหมอก็ไปแก้ปัญหากันเอง จะทำเหมือนกรณีจัดมหกรรมมวยจะนะไม่ได้ เพราะเราคงไม่โชคดีทุกครั้งภายใต้สถานการณ์แบบนี้”
นายธวเดช กล่าวต่อไปว่า โรงงานแห่งนี้ เมื่อหมอเข้าไปตรวจเชิงรุกครั้งใดก็พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องมาตลอดและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ไม่ยอมปิด จึงไม่รู้ว่ารัฐมนตรีนิพนธ์ พอจะรู้จักนายหัวเจ้าของโรงงานหรือไม่ ถ้ารู้จักก็อยากฝากไปเตือนหน่อย เพราะดูเหมือนจะเป็นที่เกรงใจจนไม่มีใครกล้าแตะ คล้ายกันเลยกับครั้งมหกรรมมวยจะนะที่ท่านมาแถลงข่าวจนสามารถจัดงานได้แม้จะมีเสียงเตือนมาจากรอบทิศ นอกจากนี้ สิ่งที่ตนกังวลต่อไปก็คือ ขนาดแค่โรงงานเดียว เวลามีเหตุยังปิดยากปิดเย็นขนาดนี้ ถ้าต่อไปสามารถเปิดนิคมอุตสาหกรรมจะนะขึ้นมาได้แบบที่ท่านนิพนธ์พยายามผลักดัน ถ้ามีเหตุ โรงงานเหล่านี้จะกลายเป็นคลัสเตอร์เสี่ยงมากขนาดไหน