รองโฆษกรัฐบาลเผย “ประยุทธ์” กำชับพร้อมดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ที่ขาดคนดูแลเหตุโควิด-19 และอำนวยความสะดวกจองวัคซีน-ส่งตัวรักษาโรงพยาบาล
วันนี้ (9 พ.ค.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้ดูแลประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบาง ครอบคลุมเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นผู้ป่วยโควิด-19 แต่ก็อาจได้รับผลกระทบเพราะเป็นผู้อยู่ในภาวะพึ่งพิง เมื่อผู้ดูแลหรือคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มเปราะบางจึงอยู่ในสถานะขาดที่พึ่ง ภาครัฐจึงต้องวางแผนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาของคนกลุ่มนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้สั่งเปิดสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศเป็นการเฉพาะ ในกรณี 1) ได้รับความเดือดร้อนไม่มีผู้ดูแลเนื่องจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 2) รักษาหายแล้วและกลับมาอยู่ในครอบครัว แต่มีความเครียดวิตกกังวล 3) ถูกทิ้งไว้ลำพัง และ 4 ) ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดู มากไปกว่านั้น ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีการแพร่ระบาดของโรคฯอย่างมาก พม.ได้เตรียมสถานที่พักพิงสำหรับกลุ่มเปราะบางไว้ต่างหาก เช่น กรณีเด็ก ใช้สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี (เฉพาะเด็กหญิง) สถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด (เฉพาะเด็กชาย) สถาบันประชาบดี ปทุมธานี กรณีผู้สูงอายุ ใช้ที่พักคนเดินทางดินแดงบ้านสร้างโอกาส ศูนย์ฝึกอบรมผู้สูงอายุ บางละมุง กรณีคนพิการ ใช้ศูนย์พัฒนาและฝึกอาชีพคนพิการ พระประแดง
ในส่วนการดูแลกลุ่มเปราะบางที่ติดเชื้อโควิด-19 รองโฆษกฯ กล่าวว่า พม.พร้อมให้การดูแลประสาน กทม. และกระทรวงสาธารณสุขเพื่อส่งต่อเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาล เช่น ผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และผู้ป่วยพิการที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ พม.ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จัดพื้นที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้ หรือหากผู้ป่วยติดต่อประสานเข้ารักษาพยาบาลไว้แล้ว แต่มีปัญหาไม่มีรถมารับ พม.จะจัดรถไปรับเพื่อส่งไปรับการรักษา พร้อมกันนี้ เรื่องการลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน ได้เตรียมอาสาสมัครพัฒนาสังคม (อพม.) และเจ้าหน้าที่ พม.ทั่วประเทศไว้คอยช่วยกลุ่มเปราะบางลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน ซึ่งจะฉีดให้ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค หากเป็นผู้มีคุณสมบัติแต่ยังลงทะเบียนไม่ได้ สามารถโทร.มาขอความช่วยเหลือที่ สายด่วน 1300 ซึ่งจะมีการประสานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้การลงทะเบียนสำเร็จเรียบร้อย
“รัฐบาลห่วงใยในความยากลำบากที่กลุ่มคนเปราะบางต้องเผชิญภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ถึงแม้ว่าบางคนจะไม่ได้ติดเชื้อแต่ก็ต้องเจอผลกระทบเพราะขาดที่พึ่ง จึงได้เตรียมพร้อมการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดย พม.ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐ เครือข่ายภาคประชาชน ภาคเอกชน ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนร่วมกัน มีการเตรียมสถานที่รองรับไว้หลายพื้นที่ ทั้งในเขต กทม. ปริมณฑล และ ส่วนภูมิภาค ส่วนในกรณีผู้ติดเชื้อ ก็จะช่วยประสานส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน และท้ายสุด ในกรณีที่คนในครอบครัวซึ่งเป็นผู้ดูแลกลุ่มเปราะบางติดเชื้อโควิด-19 กระทรวงฯ จะให้การช่วยเหลือเรื่องอาชีพของครัวเรือนด้วย จึงขอย้ำว่าสายด่วน 1300 พร้อมเป็นที่พึ่งของกลุ่มเปราะบางทุกคน” นางสาวรัชดากล่าว