“แรมโบ้” ซัด “ณัฐวุฒิ” ไปหลบอยู่ไหนมา ถึงไม่เห็นนายกฯ และรัฐบาลทำงานหนักเร่งรัดตามแผนจัดหาวัคซีนฉีดให้ประชาชนอย่างเพียงพอ หรือมัวแต่เอาเวลาเอาสมองไปคิดวางแผนการให้แต่พวกม็อบสามนิ้ว โดยไม่สนใจฟังการชี้แจงข้อมูล
วันนี้ (4 พ.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย โดย นายเสกสกล ยืนยันว่า หลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” แล้ว ก็มั่นใจว่า ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่รัฐบาลได้วางเอาไว้ โดยระยะที่ 2 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค จะฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.- ก.ค. สำหรับระยะที่ 3 จะเริ่มฉีดเดือน ส.ค.ให้กับประชาชนทั่วไปช่วงอายุตั้งแต่ 18-59 ปี และนายกฯ ตั้งเป้าในการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อยวันละ 3 แสนโดส
ส่วนการนำเข้าวัคซีนขณะนี้ทยอยเข้ามาต่อเนื่อง และจนถึงขณะนี้ อย.ได้อนุมัติวัคซีนโควิดแล้ว 3 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 3 ราย ขณะเดียวกัน วัคซีนของสยามไบโอไซเอนซ์ พร้อมทยอยส่งมอบวัคซีนลอตแรกให้แก่รัฐบาลไทยภายในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตนเองสงสัยว่า นายณัฐวุฒิ แกล้งไม่เข้าใจว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าเร่งจัดหาวัคซีนอย่างเต็มที่ ทั้งที่ได้ชี้แจงให้ทราบเป็นระยะๆ มาโดยตลอด แต่นายณัฐวุฒิกลับไม่สนใจฟัง มัวไปหลบอยู่ที่ไหนไม่ทราบ ขอให้ตั้งใจฟังและติดตามข้อมูลการชี้แจงด้วย อย่ามัวแต่นั่งมโนวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีข้อมูล เพราะนายกฯ และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนอย่างมาก และได้ดำเนินการมาโดยตลอด พร้อมกันนี้ ยังขอให้นายณัฐวุฒิมั่นใจว่าการฉีดวัคซีนจะเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ อย่าได้ตั้งแง่และกล่าวหาว่านายกฯ และรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานหนักมาโดยตลอด
“หรือว่า นายณัฐวุฒิ มัวแต่เสียเวลาไปคิดวางแผนการให้แกนนำม็อบสามนิ้วมา จึงไม่รับรู้อะไรเลย และมองไม่เห็นการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล ว่าทำไปถึงไหนแล้ว วันนี้ ทาง ศบค.และทีมแพทย์สาธารณสุข ได้ชี้แจงทุกวัน ว่า ดำเนินการตามขั้นตอนและเร่งรัดอย่างไรบ้าง ถ้านายณัฐวุฒิ ทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่สนใจการชี้แจง ผมว่าควรนิ่งๆ อย่าออกมาพูดเลยอับอายผู้คนเปล่าๆ เอาเวลาไปดูแลครอบครัวเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านจะดูดีกว่า ที่จะออกมาแสดงความเห็นที่ ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรต่อประเทศชาติประชาชนและยังทำลายขวัญกำลังใจคนที่ตั้งใจทำงานอีกด้วย” นายเสกสกล กล่าว