“แรมโบ้” ประณามการชุมนุม “กลุ่มรีเด็ม” ชุมนุมศาลอาญา มีพฤติกรรมป่าเถื่อน มั่นใจคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศรับไม่ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตการเคลื่อนไหวหวังเรียกร้องประชาธิปไตย หรือเพียงอยากสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองเท่านั้น
วันนี้ (3 พ.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ประณามการกระทำของ กลุ่มรีเด็ม (REDEM) ที่ชุมนุมศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษที่ถูกดำเนินคดีในความผิด ม.112 และเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญา ม.112 เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะการชุมนุมไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย กระทำผิดกฎหมายมากมายหลายประการ เช่น มีการปาสิ่งของทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ สาดสีใส่ป้ายศาลอาญา ทำลายทรัพย์สินราชการและรถตำรวจ ใช้ความรุนแรงปาก้อนหิน ระเบิดปิงปอง และมีการใช้พลุไฟขนาดใหญ่ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และไม่มีใครรับได้ต่อพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความจำเป็นที่จะต้องระงับเหตุโดยทำตามขั้นตอนตามกฎหมายที่มีอยู่เพื่อยับยั้งการก่อเหตุรุนแรงและก้าวร้าวจาบจ้วงของคนกลุ่มนี้
ขณะเดียวกัน ตนยังมองว่าการออกมาชุมนุมแบบนี้ยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทั่วไป และยังเป็นการเสี่ยงต่อการที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อีกซึ่งขณะนี้มีตัวเลขเพิ่มขึ้น ดังนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
นายเสกสกลยังตั้งข้อสังเกตว่าแท้จริงแล้วกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการที่จะออกมาเรียกร้องตามข้อเรียกร้องจริงหรือไม่ หรือเพียงอยากเคลื่อนไหวชุมนุมเพื่อที่จะก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน เพราะมีการทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ กล่าวโจมตีศาล และอยากยั่วยุเพื่อสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำลายทรัพย์สินราชการต่างๆ นานา เหมือนมีการเตรียมการวางแผนมาล่วงหน้า ตลอดจนมีรถขนเครื่องดื่ม เหล้ายา แอลกอฮอล์ และอาจมีการเสพใบกระท่อมและกัญชาเพื่อให้คึกคะนองฮึกเหิม ขาดสติเพื่อให้ก่อเหตุรุนแรงขึ้นมา ดังปรากฏในภาพที่เจ้าหน้าที่ได้นำมาเผยแพร่ให้เห็นกัน นับเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในบ้านเมือง
“การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมถือเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน คนส่วนใหญ่ของประเทศรับไม่ได้ ผมจึงขอประณามการกระทำที่รุนแรงป่าเถื่อนเช่นนี้
ส่วนการที่จะขอปล่อยตัวชั่วคราวนักโทษที่ถูกดำเนินคดีในความผิด ม.112 อยู่ที่ศาลจะพิจารณา แต่จะมากดดันศาลด้วยพฤติกรรมถ่อยๆ เช่นนี้ใช้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทย”
นายเสกสกลกล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ตนขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมอย่าได้ออกมาเรียกร้องใดๆ หรือสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองในขณะที่บ้านเมืองต้องการความร่วมมือ โดยเฉพาะในการที่จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลงให้ได้ เพราะการออกมารวมคนหมู่มากเช่นนี้จะมีความเสี่ยงสูงมากในการแพร่เชื้อกระจายไปทั่วในกลุ่มผู้ชุมนุมอาจเกิดการสูญเสียมากขึ้น สุดท้ายจะมาโทษว่า รัฐบาลรักษาไม่หายไม่ได้ ถ้าบังเอิญเสียชีวิตเพราะติดโควิดจากการมาร่วมชุมนุมอย่ามาโทษรัฐบาลเด็ดขาด แต่เป็นเพราะทางกลุ่มไม่ให้ความร่วมมือตั้งแต่แรก ทั้งที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ได้ห้ามปรามตักเตือนตลอดเวลาอย่าทำผิดกฎหมายและให้ระวังการแพร่เชื้อในที่ชุมนุม
“บ้านเมืองมีขื่อมีแป อย่ามาใช้พฤติกรรมแบบบ้านป่าเมืองเถื่อนเลย ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จะปล่อยให้คนชั่วลอยนวลต่อไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะคนไทยที่รักบ้านรักเมืองปกป้องสถาบัน คงจะไม่ยอมยืนดูคนชั่วช้าสารเลวทำผิดซ้ำซากอีกต่อไป คนเลวๆ เหล่านี้ เจ้าหน้าที่ต้องรีบดำเนินคดีตามกฎหมายเอาตัวไปเข้าคุกเข้าตะรางให้เร็วที่สุด ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เบื่อหน่ายเอือมระอากับคนกลุ่มนี้ที่สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้บ้านเมืองตลอดเวลา” นายเสกสกลกล่าว