โฆษก ทบ. เผย “บิ๊กบี้” ตั้งศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. สื่อกลางช่วยผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาของรัฐ โทร. 02-270-5685-9 ทุกวัน กห.ประสานขอใช้พื้นที่การท่าเรือฯ สร้าง รพ.สนาม รับคลัสเตอร์ใหม่คลองเตย พร้อมหนุนกำลังพล อุปกรณ์
วันนี้ (3 พ.ค.) พลโท สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก/โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่นั้น มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และมีการแพร่กระจายของโรคไปยังหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล ทำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อบางส่วนยังคงอยู่ระหว่างการรอเรียกเข้ารับการรักษาจากสถานพยาบาลซึ่งก่อให้เกิดความกังวลใจต่อตัวผู้ป่วยและญาติที่เกี่ยวข้อง
พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ทราบถึงปัญหาและมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุด ได้สั่งการให้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ.” ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก ในการเป็นสื่อกลางรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อประสานไปยังศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ของรัฐบาล (อาคารนิมิบุตร) หรือสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าดำเนินการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อที่ตกค้างหรืออยู่ระหว่างการรอเรียกจากสถานพยาบาลให้ได้เข้าสู่กระบวนรักษา รวมถึงการประสานศูนย์ควบคุมการเคลื่อนย้าย ศปม.ทบ. ในกรณีที่โรงพยาบาลต้องการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรงไปยังโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้ ตลอดจนให้การสนับสนุนการเคลื่อนย้ายของประชาชนในทุกกรณีเมื่อได้รับการร้องขอ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกข้อมูลของผู้ติดเชื้อ พร้อมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าผู้ติดเชื้อจะได้รับการรักษาตามกระบวนการสาธารณสุข
ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. ดังกล่าว จะทำหน้าที่เป็นช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนรัฐบาลสำหรับการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงเป็นการช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาจากแพทย์ได้อย่างทันท่วงที โดยสามารถประสานขอรับการช่วยเหลือได้ที่เบอร์ 02-2705685-9 ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 64 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย
ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์ประสานงานดังกล่าว เป็นการระดมศักยภาพของบุคลากร และยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่มาปรับใช้เพื่อควบคุมและป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ไม่ให้ขยายเป็นวงกว้าง รวมถึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ติดเชื้อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายและกลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส ที่ขยายวงกว้างและพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนแออัดในเขตกรุงเทพมหานคร จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อเตรียมการรองรับหากมีการแพร่ระบาดในชุมชนจำนวนมาก เป็นการลดภาระด้านสาธารณสุขในระบบ ซึ่งปัจจุบันมีข้อจำกัดทางด้านบุคลากรทางการแพทย์และเตียงผู้ป่วย ว่า ในเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันกับทาง กทม.ตั้งแต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว เพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดในชุมชนคลองเตย แต่ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของ กทม. ขณะที่ กองทัพเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนอยู่แล้ว โดยการนำกำลังพล และเครื่องมือบางส่วนเข้าไปช่วยสนับสนุนส่วนการจัดหาพื้นที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ทาง กทม.จะต้องเป็นหน่วยงานหลักในการพิจารณาหาพื้นที่ โดยมีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เข้าไปช่วยในส่วนนี้ด้วย
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีการประสานขอใช้พื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม พร้อมต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องเตรียมหาพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติ่มอีกหรือไม่ เพราะจะต้องดูว่าในพื้นที่ของการท่าเรือเรือแห่งประเทศไทย จะสามารถรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีเพิ่มขึ้นในพื้นที่ชุมนุมคลองเตยหรือไม่ เพื่อเตรียมแผน การบริหารจัดการพื้นที่ เพราะเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่าทางสาธารณสุขเอง ก็ต้องทำงานอย่างหนักในโรงพยาบาล และไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการพื้นที่ ดังนั้น ทหารจึงต้องเข้าไปช่วยในการประสานจัดการพื้นที่ การส่งตัวผู้ป่วย เตียง และเครื่องมือบางส่วน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ชุมชนคลองเตย ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากถึง 300 ราย ซึ่งถือว่ามีความน่าเป็นห่วงมาก ซึ่งเรื่องนี้ที่ได้มีการพูดคุยกันตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว พร้อมขอให้สอบถามความคืบหน้าเรื่องดังไปยัง กทม.