กอ.รมน.ใช้กลไก กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อกำหนดที่ออกเพิ่มเติม ผ่านสายด่วนโควิด-19 เฉพาะกิจ 1668, 1669 และ 1330
วันนี้ (1 พ.ค.) พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ได้แถลงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยที่ยังตกค้างรอเข้ารับการรักษา และยังส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกข้อกำหนดเพิ่มเติม เพื่อป้องกัน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดที่จะขยายไปในวงกว้าง
กอ.รมน. โดย พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมะปิยะ รองเลขาธิการ กอ.รมน. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.ศรมน.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมอบหมายให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จว. ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อสั่งการของรัฐบาล โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อที่รอเข้าการรักษา รวมทั้งการจัดยานพาหนะเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลหรือพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ (โรงพยาบาลสนาม) อีกทั้งได้เน้นย้ำให้ประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการ และข้อกำหนดที่รัฐบาลได้ออกเพิ่มเติม รวมถึงมาตรการการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด
สำหรับการจัดเตรียมสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนามสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคลี่คลายปัญหาบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยซึ่งเป็นภาระเร่งด่วนในปัจจุบันที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และมีจำนวนมากในหลายพื้นที่ ขอให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จว. พร้อมสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ตามการร้องขอเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ที่เข้ารับการรักษาอย่างเร็วที่สุด
ปัจจุบันรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อที่รอการรับการรักษา โดยได้จัดตั้งศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อส่งต่อ (Pre Admission Center) ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่คัดกรองและส่งต่อผู้ป่วย ไปยังโรงพยาบาล โดยจะคัดกรองและแยกระดับอาการเป็นสีเขียว เหลือง แดง ก่อนส่งต่อไปรักษาตามความเหมาะสม เพื่อรองรับปัญหาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังอยู่ที่บ้านให้เข้าถึงการดูแลรักษาของแพทย์โดยเร็วที่สุด การให้บริการจะเหมือนโรงพยาบาล โดยมีบุคลากร แพทย์ พยาบาล ยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบถ้วน ส่วนช่องทางการติดต่อขอเข้ารับการรักษา สามารถติดต่อผ่านทาง สายด่วนโควิด-19 เฉพาะกิจ 1668, 1669 และ 1330 รวมทั้งสายด่วน กอ.รมน. 1374 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสายด่วนเหล่านี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์กรุงเทพมหานคร ศูนย์เอราวัณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และทีมจิตอาสา ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รับข้อมูลเพื่อประเมินระดับความรุนแรง พร้อมทั้งติดตามอาการทางโทรศัพท์ระหว่างรอเตียง รวมถึงการประสานหาเตียงให้โดยเร็วที่สุด
กอ.รมน. ขอฝากความห่วงใยมายังประชาชน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และ สังคม โดยขอความร่วมมือช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง และข้อบังคับที่รัฐบาลกำหนดเพิ่มเติม จนกว่าประเทศจะกลับสู่ภาวะปกติ สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีการอยู่ร่วมกัน ลดกิจกรรมการชุมนุมสังสรรค์ทุกประเภท หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ยังคงเข้มงวดกับมาตรการ D-M-H-T-T-A และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ เพื่อรู้เท่าทันเหตุการณ์
กอ.รมน. พร้อมมุ่งมั่น บูรณาการ ขับเคลื่อน ประสานงาน และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส