ศบค.มท.สั่งการทุกจังหวัดปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 22 โดยเคร่งครัด พร้อมสร้างความรับรู้กับผู้ประกอบการและทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
วันนี้ (30 เม.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 22) ลงวันที่ 29 เม.ย. 64 โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 64 เป็นต้นไป ซึ่งมีข้อกำหนดและข้อปฏิบัติ คือ 1) การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการแพร่โรคเมื่ออยู่นอกเคหสถานอยู่ในที่สาธารณะ 2) การกำหนดพื้นที่สถานการณ์ 3) การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4) มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5) มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุม และ 6) การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดถือปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 22) โดยเคร่งครัด พร้อมสร้างการรับรู้ข้อกำหนดฯ ฉบับดังกล่าวแก่ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ และกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้มีมติให้ออกประกาศหรือคำสั่ง ให้ส่งประกาศและคำสั่งมายัง ศบค.มท.ทราบโดยเร็ว เพื่อรายงานสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งประชาสัมพันธ์ประกาศและคำสั่งให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบโดยทั่วกัน