วันนี้(26 เม.ย.)นางสาวดวงพร สุขุมพันธุ์พงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร สก.เขตมีนบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีหลายพรรคการเมืองออกมาเป็นตัวกลางในการจัดหาเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้ว่า การช่วยกันคนละไม้คนละมือโดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดระลอก 3 ครั้งนี้ซึ่งวิกฤตมาก ถือเป็นเรื่องที่ดีและขอชื่นชมไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูแลประชาชนในพื้นที่ของตนเพื่อคอยประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบและช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ ทำให้ประชนชาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและลดความกังวลของพี่น้องประชาชน
น.ส.ดวงพร กล่าวต่อว่า ในบางพื้นที่พบว่ามีบางพรรคการเมืองตั้งศูนย์ขึ้นเพื่อฉวยโอกาสหาเสียงด้วยการการันตีมีเตียงให้แน่นอนผ่านเส้นสายรัฐมนตรี ซึ่งขอเรียกว่า ระบบ ‘ตั๋วเตียง’ เพื่อหาเสียงล่วงหน้าโดยใช้ชีวิตคนเป็นเครื่องต่อรองสร้างบุญคุณเสมือนกำลังทำโครงการเส้นสายเข้มแข็ง และเป็นเรื่องที่น่ากังวลว่าจะทำให้ช่องว่างความเหลื่อมล้ำยิ่งถ่างกว้างขึ้น เพราะเป็นการใช้อภิสิทธิ์หาประโยชน์โดยแลกกับระบบสาธารณสุขที่อาจพังทลาย เนื่องจากคนที่ไม่มีเส้นสายแม้จะป่วยหนักก็อาจไม่มีเตียงให้ได้เพราะถูกกันไว้หมดแล้ว ทั้งที่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องวางระบบให้เกิดเป็นมาตรฐานเดียวกันในขณะนี้
“สิ่งที่เกิดขึ้นจึงสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพ ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาล ศบค. กทม. สธ.ที่มีพรรคภูมิใจไทยดูแล และพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคร่วมที่ต่างคนต่างทำในแท่งของตัวเอง ดิฉันขอยืนยันอีกครั้งว่า การร่วมแรงร่วมใจกันคนละไม้คนละมือกันเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่ใช่ทำเพื่อหนุนเสริมกัน เพื่อให้แข็งแรงไปด้วยกันเพื่อเป็นรัฐบาลที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกัน แล้วกลับไปแยกกันทำโดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ ผลที่ตามมาก็อาจจะกลายเป็นผลเสียร้ายแรงได้”น.ส.ดวงพร กล่าว
น.ส.ดวงพร กล่าวต่อว่า หากมีการอำนวยความสะดวกเช่นนี้เต็มไปหมด หากผู้ป่วยที่ต้องการเตียงจริงๆอาจไม่ได้รับการดูแลรักษาหรือเป็นความเหลื่อมทางสาธารณสุข สิ่งที่อยากตั้งคำถามก็คือเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลจึงทำให้ไม่สามารถดูแลทุกคนด้วยมาตรฐานเดียวกันได้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประเทศต้องการการบริหารจัดการเชิงระบบ ไม่ใช่การบริหารจัดการเส้นสาย ท้ายที่สุดประชาชนต้องแบกรับภาระต่อไป