วันนี้ (26 เม.ย.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วทุกวงการ ไม่เว้นแต่ที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี แต่ถึงแม้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาลจะได้ตรวจหาโควิดต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่าล่าสุดจากการตรวจมีเจ้าหน้าที่มีผลเลือดเป็นบวกจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย พนักงานขับรถของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ผลตรวจเมื่อวันที่ 23 เม.ย. หัวหน้าแม่บ้าน ผลตรวจวันที่ 25 เม.ย. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.4 บก.ส.3 ผลตรวจเมื่อวันที่ 25 เม.ย.
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางผู้บังคับบัญชาได้มีคำสั่งด่วนให้ผู้อำนวยการสำนักที่รับผิดชอบสำรวจว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดที่สัมผัสใกล้ชิดสูงกับผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คน หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง และขอให้แยกชื่อผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กับกลุ่มเสี่ยงเพื่อทำการกักตัว โดยขอให้ผู้ที่เสี่ยงสูงกับผู้ที่มีความเสี่ยงกักตัวไว้ก่อน 14 วัน
ด้านนายเสกสกลเปิดเผยว่า หลังทราบว่าคนขับรถของตัวเองมีการติดเชื้อก็ได้เข้าทำการตรวจเช็กที่สถาบันบำราศนราดูร และได้ทำการเข้ารับการรักษาและกักตัวที่โรงพยาบาลบำราศนราดูรเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ทราบผล ทั้งนี้ก็ไม่ได้มาสัมผัสใกล้ชิดกับตน แต่เพื่อความไม่ประมาทแม้ตนจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วสองเข็ม จึงได้ทำการตรวจอีก 2 ครั้งทั้งที่ปากช่องและที่สถาบันบำราศนราดูรไม่พบเชื้อ ขณะนี้ทำการกักตัวอยู่ที่บ้านพัก ยืนยันว่าตนไม่ได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมหลังจากที่ทราบผลของผู้ติดตาม ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ผู้ติดตามและผู้ใกล้ชิดของตนทั้งหมดได้ทำการตรวจและกักตัวทั้งหมดแล้ว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายสอบสวนโรคได้ทำการสอบสวนโรคอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีความเป็นห่วงว่าจะมีการแพร่กระจายของเชื้อออกไปอีกโดยเฉพาะในทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะมีการตรวจเช็กอยู่ตลอดเวลา แต่ก็เพิ่งได้รับวัคซีนเพียงเข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้าเท่านั้น