“นิพนธ์ บุญญามณี” นั่งบอร์ดบริหารไฟฟ้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดันแผนกองทุนไฟฟ้า “ศอ.บต.”

“นิพนธ์ บุญญามณี” นั่งบอร์ดบริหารไฟฟ้าชายแดนภาคใต้ ร่วมขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรในพื้นที่ฯ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พ่วง 2 ข้าราชการประจำช่วยดันแผน ศอ.บต. ของบฯ 1.9 หมื่นล้านผุด “กองทุนพลังงานไฟฟ้า” นำกำไรโรงไฟฟ้าชุมชนสนับสนุนทุนการศึกษา ทุนสร้างอาชีพคนในพื้นที่

วันนี้ (21 เม.ย. 64) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือด่วนที่สุด ถึงเลขาธิการศูนย์อำนวยการการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แจ้งผลการแต่งตั้งคณะกรรมการในสัดส่วนกระทรวงมหาดไทย ในคณะกรรมการอำนวยการบริหารโครงการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ทั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 363/2563 โดยแต่งตั้งให้นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ร่วมเป็นกรรมการตามคำสั่ง และมอบหมายให้นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนหลัก และให้นายชานน วาสิกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ช่วยราชการสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนสำรอง แทน รมว.มหาดไทย กรณีร่วมประชุมไม่ได้

สำหรับองค์ประกอบในคณะกรรมการอำนวยการบริหารโครงการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มีรองนายกรัฐมนตรีที่นายกฯ แต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ คาดว่าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และรองนายกฯ ทุกคนจะนั่งเป็นที่ปรึกษาร่วมกับกรรมการอื่นๆ ไม่เกิน 12 คน ประกอบด้วย รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รมว.พาณิชย์ รมว.มหาดไทย รมช.มหาดไทยที่ได้รับมอบหมาย เลขาธิการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาพัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่เกิน 3 ราย โดยมีเลขาธิการ ศอ.บต. และผู้แทน กอ.รมน.ส่วนหน้า ภาค 4 เป็นเลขานุการฯ

สำหรับการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นโครงการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต) ดำเนินการเพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เห็นชอบต่อไป

โดยพบว่าที่ผ่านมา ศอ.บต.เคยมีแผนจัดตั้ง “กองทุนพลังงานไฟฟ้าเพื่อประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” โดยนำรายได้จากผลกำไรสุทธิไม่เกินร้อยละ 10 ของโรงไฟฟ้าชุมชนมาเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา ทุนสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน เป็นต้น โดยตั้งงบประมาณไว้จำนวน 19,764 ล้านบาท/5 ปี (3,952.80 ล้านบาท/ปี)