นายกฯ ถกทีมเศรษฐกิจ ลุยต่อภูเก็ตโมเดล เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศตามแผนเดิม เน้นลูกค้าจากประเทศระยะไกล เชื่อโควิดรอบสามไม่กระทบ ระบบสาธารณสุขไทยเอาอยู่ ด้าน “สุพัฒนพงษ์” ยืนยันสานต่อแพกเกจเยียวยาเดิม คาดเริ่มใช้ได้ มิ.ย.นี้ ย้ำมีงบพอ ดึงเงินฝาก 5-6 แสนล้านมาใช้ ไม่ต้องกู้เพิ่ม
วันนี้ (20 เม.ย.) ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกทีมเศรษฐกิจหารือบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหามาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 รอบที่ 3 เพิ่มเติม ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด รวมถึงแผนการเปิดประเทศภูเก็ตโมเดล โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าด้านการตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุม
นายสุพัฒนพงษ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะดำเนินการตามแผนเดิม เนื่องจากความต้องการท่องเที่ยวยังไม่ลดลง โดยเน้นการท่องเที่ยวจากประเทศระยะไกล และเชื่อว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ไทยระลอกนี้ไม่ส่งผลต่อนักท่องเที่ยว เพราะจากมาตรการของรัฐบาล รวมถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ ซึ่งระบบสาธารณสุขของไทยได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
นอกจากนี้ ยังยืนยันเดินหน้าโครงการช่วยเหลือประชาชนในแพกเกจเดิม อาทิ โครงการเราชนะ คนละครึ่ง ม.33เรารักกัน หรือแม้แต่มาตรการใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นมา คือ เราผูกพัน ที่จะช่วยเหลือข้าราชการ อีกทั้งเตรียมมาตรการดึงเงินฝากที่มีอยู่ 5-6 แสนล้านบาท ออกมาใช้จ่าย ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และคาดว่า ปลายเดือนพฤษภาคมจะดำเนินการเรียบร้อย และประกาศใช้ในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมยืนยันรัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณไว้ช่วยเหลืออย่างเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่ม เพราะงบประมาณที่กู้ยังเพียงพอ และยังเดินหน้าดึงดูดนักลงทุน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นผล ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน
ส่วนการระบาดในระลอกนี้ จะส่งผลกระทบต่อมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขอประเมินสถานการณ์ในช่วงเดือนนี้ก่อน ถ้าหาสถานการณ์สามารถควบคุมได้ในสิ้นเดือนนี้ ก็หาทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื้อว่า หลังมีมาตรการยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดใน 14 วันนี้ สถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากทุกคน
นายสุพัฒน์พงษ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมา เราเตรียมการควบคุมไว้ แต่บังเอิญเกิดความประมาทเสียเอง ซึ่งหากถ้าควบคุมสถานการณ์ได้การฉีดวัควีนในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ก็จะเป็นไปตามแผน และน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยที่เราทำตัวเราเอง จนเกิดเหตุการณ์ขึ้นจากคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช่เฉพาะคลับทองหล่อเท่านั้น แต่ยังมีภาพที่เกิดขึ้น พื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่เห็นภาพนักท่องเที่ยวไม่สวมหน้ากากอนามัย เดินท่องเที่ยวชายหาด ซึ่งส่วนตัวเสียดายที่ไม่มีการป้องกันดูแลตัวเองตามนโยบายของรัฐบาล เพราะ จ.ภูเก็ต คือ ตัวแทนประเทศไทยในการเปิดประเทศ โดยยืนยันนายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ที่จะเร่งรัดหาวัคซีนอย่างเต็มที่ โดยที่ทุกคนจะได้ฉีดวัคซีนอย่างครอบคลุม