“ประยุทธ์” ประชุม ครม.จับตาการออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถกขยายใช้เงิน “เราชนะ” พิจารณาโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากข้าราชการร้อยละ 90 ยังคงทำงานที่บ้าน โดยวันเดียวกันนี้ ยังคงเป็นการประชุมในลักษณะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยรัฐมนตรีจะประชุมอยู่ที่กระทรวงที่รับผิดชอบ ส่วนรัฐมนตรีที่ยังกักตัวอยู่ก็ให้ประชุมมาจากที่พัก ขณะที่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทั้งสามคน ซึ่งอยู่ระหว่างการกักตัวนั้น จะมีการบันทึกเสียงและแถลงผลการประชุม ครม.ผ่านเพจไทยคู่ฟ้า
โดยวาระสำคัญในการประชุม ครม.วันนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง การออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกระทรวงการคลัง จะเสนอของบประมาณเพิ่มเติมใช้ในโครงการเราชนะ เพียงเล็กน้อย เพื่อให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์ได้รับสิทธิ ครอบคลุมทั้งหมด
แต่ทุกคนจะยังได้รับวงเงิน 7,000 บาทเท่าเดิม พร้อมทั้งขอขยายระยะเวลาการใช้เงินในโครงการนี้ เพิ่มอีก 1 เดือนด้วย จากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม เป็น 30 มิถุนายนนี้
ขณะเดียวกัน อาจจะมีการพิจารณา โครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่า จะมีแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคทางการค้าการลงทุน เพื่อช่วยเหลือประชาชนฐานราก เช่น ลูกจ้างชั่วคราว รวมถึงบัณฑิตจบใหม่ที่อาจตกงานกว่า 1 ล้านคน ทั้งการขอความร่วมมือเอกชนรับบัณฑิตจบใหม่เข้าทำงาน ตามโครงการ “รัฐช่วยจ่าย เอกชนช่วยจ่าย” หลังจากเปิดโครงการเมื่อปีที่แล้ว จำนวน 260,000 อัตรา ระยะเวลาจ้างงาน 1 ปี
ขณะที่ สำนักงบประมาณจะเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรี พิจารณา เน้นหน่วยงานราชการจัดทำโครงการระยะสั้น 1 ปี ป้องกันและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมเมื่อผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีว่าจะมีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและสถานบันเทิงที่ปล่อยให้มีการแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างไรบ้าง โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบเพียงสั้นๆ ว่า “เขาชี้แจงไปหมดแล้ว”