ข่าวปนคน คนปนข่าว
**สัมพันธ์ลึก “เดวิด สเตร็คฟัสส์” CIA ศิษย์ของ ส.ศิวรักษ์ คนปลุกปั้น “ไผ่ ดาวดิน” สนิทแนบแน่นร่วมก๊วน “ชาญวิทย์-ปวิน” ขบวนการล้มเจ้า
ยิ่งสาวก็ยิ่งเจอ สำหรับ “เดวิด สเตร็คฟัสส์” ฝรั่งสัญชาติอเมริกัน ที่เพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ โดย “สนธิ ลิ้มทองกุล” ออกมาเปิดโปงว่าเขาคือ หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ หรือ CIA ที่ฝังตัวเข้ามาอยู่ในไทยนานกว่า 35 ปี ทำงานเป็น ผอ.ศูนย์แลกเปลี่ยนการศีกษาระหว่างประเทศ (CIEF) ม.ขอนแก่น ก่อนที่จะถูกทางการไทยระงับวีซ่า ด้วยเหตุผลเพื่อความมั่นคงของชาติ และสถาบันเบื้องสูง
โดยเมื่อวาน (18 เม.ย.) โลกโซเชียลฯได้แชร์ภาพ “เดวิด สเตร็คฟัสส์” ที่เคยร่วมถ่ายภาพกับบุคคลต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงในทางการเมือง และการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันเบื้องสูงของไทยของเขาและบุคคลเหล่านั้น อาทิ “ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ที่ว่ากันว่า เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของแกนนำม็อบคณะราษฎร ที่ถูกดำเนินคดีหมิ่นสถาบันฯ อยู่ในขณะนี้ “ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ม.เกียวโต ผู้ก่อตั้ง เพจเฟซบุ๊ก “กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง” รวมทั้งยังเป็นบุคคลหลบหนีคดีความผิด ม.112 ด้วย รวมถึง “แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชลล์” อดีตนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งถูกแจ้งความดำเนินคดีในประเทศไทยหลายคดี จากการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Andrew MacGregor Marshall โจมตีประเทศไทย รวมถึงสถาบันพระมหากษัตริย์บ่อยครั้ง
ต่อมาเฟซบุ๊ก “ปราชญ์ สามสี” ได้โพสต์ข้อความว่า “เมื่อวันก่อนข้าพเจ้าเคยบอกมาตลอดว่า ศิวรักษ์ เนี่ยคือ CIA .. ขนาดหนังสือ Exclusive Intelligence Review (EIR) โดย Lyndon H. Larouche ก็ยังระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นสายลับที่คอยปลุกปั่นคนไทยมาช้านาน…
david streakfuss จากมูลนิธิ ciee โดนถอนวีซ่า ทั้งๆ ที่อยู่เมืองไทยมา 35 ปี ทั้งที่ตนเองทำดี สอนหนังสือใน ม.ขอนแก่น จะบอกให้นะครับ David streakfuss นั้น เป็นคนก่อตั้ง “อีสานเร็คคอร์ด” ร่วมกับภรรยาชาวไทย ที่เป็น บก.ของ isaan record นั่นแหล่ะ และเป็นคนสนับสนุน “ไผ่ ดาวดิน” เข้าสู่วงการเมือง
David streakfuss ดันบอกปัดว่า ไม่ใช่ CIA แต่รับเงิน NED ก็คือ แปลว่า รับเงิน CIA นั้นแหล่ะ แล้วก็สารภาพกัน
ออกมาเองว่า David streakfuss เป็นศิษย์ของ “ส.ศิวรักษ์” นั่นไง คือ ให้ตายสิ CIA ไม่เอี่ยวก็บ้าแล้ว จะบอกให้ นี่แค่ตัวเดียวนะ จริงๆ ยังมีอีก”
เพจดังโพสต์แบบนี้ก็ยิ่งชัด ขยายความกันอีกสักนิดว่า “เดวิด สเตร็คฟัสส์” คนนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่อยู่เมืองไทย อาศัยคราบนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์การเมือง แสดงความเห็นทางการเมืองผ่านสื่อมวลชนต่างประเทศและไทยบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน มีงานวิชาการโดยเฉพาะด้านการเมืองประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีบทความและหนังสือตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ระดับโลก อาทิ หนังสือ Truth on Trial in Thailand ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเมืองไทย วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาความไร้เสถียรภาพทางการเมือง การใช้ความรุนแรงในทางการเมือง ปัญหาสิทธิเสรีภาพ หลังจากการรัฐประหารของทหารในปี 2006 ปัญหาความอยุธรรมทางกฎหมายของไทยในโลกสมัยใหม่ การใช้กฎหมายอาญา ม.112 ที่ตีพิมพ์กับ สำนักพิมพ์ Routledge ใน 2011 รวมถึงเป็นผู้ดูแลสำนักข่าว เดอะอีสานเรคคอร์ด
พูดถึง “เดอะอีสานเรคคอร์ด” กำลังเป็นประเด็นว่า ภรรยาชาวไทย “วิส-หทัยรัตน์ พหลทัพ” ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งกับเดวิด และรับหน้าที่เป็น บก.ด้วยนั้น ก่อนหน้านี้ เป็นนักข่าวสายสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม การเมืองและประชาธิปไตย มานาน และเคยทำงานที่ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เคยได้รับรางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชนจากองค์กร แอมเนสตี้ เมื่อปี 62 และยังเป็น 1 ใน 4 นักปกป้องสิทธิมนุษยชนหญิงที่จัดโดยแอมเนสตี้ ประเทศไทย อีกด้วย
งานนี้ก็จะเห็นว่า CIA สหรัฐฯ ผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวในการล้มสถาบันในภาคอีสาน อยู่เบื้องหลัง “ไผ่ ดาวดิน” ขอทุนจาก NED ให้สื่ออีสานเรคคอร์ด ของตัวเอง เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ที่มุ่งสั่นคลอนความมั่นคงและสถาบันกษัตรย์ รวมถึงการฝังตัวอยู่ใน ม.ขอนแก่น มานานกว่า 27 ปี เป็นคนประสานคนทั้งนอกและในประเทศ
เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งตัวแสบของขบวนการล้มเจ้า ที่กินบนเรือนขี้บนหลังคามานาน โดยที่เจ้าบ้านบางกลุ่มให้การสนับสนุนด้วยนี่สิ น่าอนาถใจจริงๆ
** ลุงดอน-ลุงตู่ รู้หรือยัง? เขาว่า “Agent H” เป็นคนระดับบิ๊กสหรัฐฯ ในแชตหลุด “ชักศึกเข้าบ้าน” แกนนำม็อบ 3 นิ้ว
กลายเป็นประเด็นร้อน หลังมีแชตหลุดของ “น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว” หรือ “ลูกเกด” แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group–DRG) และกลุ่มคณะราษฎร เมื่อสงสัยกันว่า บุคคลที่ใช้ชื่อในแชตว่า “Agent H.” นั้นคือใคร?
ว่ากันว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องมาจากกรณีเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 64 โลกโซเชียลฯ ได้มีการเผยแพร่แชตการสนทนา โดยว่าเป็นแชตของ “ลูกเกด ชลธิชา” ที่พูดคุยกับชาวต่างชาติ ที่ใช้ชื่อในไลน์ว่า “Agent H.” เป็นการรายงานสถานการณ์การเคลื่อนไหวในประเทศไทยของม็อบสามนิ้ว
ต่อมาลูกเกด ได้โพสต์ข้อความปฏิเสธว่า เรื่องแชตเป็นข้อมูลเท็จ เป็นการหมิ่นประมาทเธอ อ้างว่า เป็นแค่คนทำงานในวงการสิทธิมนุษยชนธรรมดาๆ ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรขนาดที่จะไปเรียกร้องให้ต่างชาติมาแทรกแซงเมืองไทยได้ ไม่มีใครใช้แชตไลน์คุยกับสถานทูตหรอก แต่กระนั้นหลายคนตั้งข้อสังเกตและจับผิดว่า คำปฏิเสธว่าเป็นแชตปลอม แต่กลับยอมรับว่า Agent H. เป็นคนของสถานทูตสหรัฐฯ ซะงั้น
ขณะที่ตามมาติดๆ อีกชุดหนึ่ง โดยแชตหลุดนี้ยังเป็นบทสนทนาระหว่าง “ลูกเกด กับ Agent H.” โดยที่เร่งเร้าอยากให้สถานการณ์การชุมนุมในไทยเกิดความรุนแรงขึ้น โดยต้องทำให้มีประชาชนเสียชีวิตแบบเมียนมา เพื่อที่จะกดดันให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี คุมสถานการณ์ไม่ได้ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า หากภารกิจสำเร็จ จะยอมจ่ายไม่อั้น !!?
มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในแชต ลูกเกด ชลธิชา และ Agent H. นั้น มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก จากการที่มีการส่งสติ๊กเกอร์ และมีการส่งรูปภาพ ข้อความเสียงให้กัน และมีการทักทายแบบกันเอง
จากแชตหลุด ลูกเกด และ Agent H. มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า มีการวางแผนกันอย่างดี มีการตั้งโค้ดเนม สัญลักษณ์เป็นตัวเลข 5, 6, 7, 8, 9 แทนความหมายคนที่คอนโทรลอยู่
นอกจากนี้ Agent H. ได้ยกนิ้วชื่นชม “แอมมี่” ที่ก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ จนถูกจับกุมโดย “ชลธิชา” ได้ตอบกลับว่า อาจจะมีม็อบเพิ่มมากขึ้นอีก และสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
จากข้อสงสัยดังกล่าว “Agent H” ว่าคือใคร ? ปรากฏว่า มีข้อมูลจากโซเชียลฯ ในเวลาต่อมาว่า ภาพที่อยู่ในไอคอนแทน “Agent H” มีความคล้ายกับใบหน้า “Henry Rector” ตำแหน่ง Senior Diplomatic Advisorหรือ ที่ปรึกษาทางการทูตอาวุโส ที่ มีความเชี่ยวชาญพิเศษ ด้าน democratic Transition, Southeast Asia, Engaging Fragile and post-conflictStates ของสหรัฐฯ
ขณะที่เบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏในแชตหลุดนั้น เป็นของ “ฟอร์ด” ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หนึ่งในแกนนำม็อบสามนิ้ว ที่หลบหนีไปยังต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว
สำหรับประวัติของ Henry Rector เข้าร่วม Daniel K. Inouye Asia-Pacific Center for Security Studies (DKI APCSS) ในเดือน ก.ย. 63 ในตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสทางการทูต (SDA) หลังจากดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกการเมืองที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 ปี,
Henry Rector เป็นสมาชิกอาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศ โดยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (เทียบเท่าทหารยศพันเอกพิเศษ) ก่อนหน้าที่จะได้รับมอบหมายในกรุงเทพฯ เขาดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาทางการเมืองที่สถานทูตสหรัฐฯ ในแบกแดด จากประสบการณ์ 31 ปี ทั้งในต่างประเทศ และในวอชิงตัน เขามีความเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยการเมือง-การทหารและการมีส่วนร่วมทางการทูต ในรัฐที่เปราะบางและหลังความขัดแย้ง Mr.Rector เป็นผู้รับรางวัล Superior Honor and Meritorious Honor Awards ของกระทรวงการต่างประเทศ
Henry Rector เคยดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 9 ปี ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเมืองในประเทศไทย ระหว่างปี 60-63 เขาได้ส่งเสริมยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และช่วยวางแผนการเยือนของเลขาธิการแห่งรัฐทิลเลอร์สันและปอมเปโอ นอกจากนี้ เขายังจัดการสังเกตการณ์การเลือกตั้งระดับชาติของไทย ในปี 2562
ถ้ายังจำได้ Mr.Rector คนนี้ เป็นคนๆ เดียวกับคณะผู้แทนต่างชาติ12 คน เจ้าหน้าที่อุปทูตสหรัฐฯ ที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เชิญให้มาสังเกตการณ์ ทั้งคดีของตัวเองที่เดินทางไปให้ปากคำกับ สน.ปทุมวัน เมื่อปี 62 และกรณีพรรคอนาคตใหม่ถูกตัดสินคดีการเมือง
เขาว่ากันว่า ที่สุดของแชตหลุด ลูกเกด “Agent H” คนที่เอ่ยถึงจะใช่ Henry Rector หรือไม่ก็ตาม แต่สายข่าวและชาวโซเชียลฯ ก็พากันเชื่อว่า นี่คือ ข้อพิสูจน์ถึงความจริงที่ว่า ม็อบ 3 นิ้ว และขบวนการปลุกปั่นความมั่นคง และ ล้มสถาบันฯ มีต่างชาติคอยแทรกแซงและสนับสนุน โดยคนไทยเป็นคน “ชักศึกเข้าบ้าน”
งานนี้ “ลุงดอน ปรมัตถ์วินัย” รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้หรือยัง ?