ฝ่านค้านรุมจวกนายกฯ ต้องรับผิดชอบขอประชุมวิสามัญเองแต่ทำล่ม ต้องลาออกหาก พ.ร.บ.ประชามติไม่ผ่านวาระ 3 ซัดการกระทำมิบังควร ก้าวไกลเตือนนายกฯ-ส.ว.เจอปชช.ลุกฮือขับไล่ทนพฤติกรรมลุแก่อำนาจไม่ไหว
วันนี้ (8 เม.ย.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีองค์ประชุมในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติล่มว่า ส.ว.ท่านหนึ่งเสนอตรวจสอบองค์ประชุมโดยการขานชื่อ แม้จะมีการอธิบายกันอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อมีการประชุมในมาตราต่อไป มีสมาชิกรัฐสภาส่วนหนึ่งนั่งอยู่นอกห้องประชุมโดยไม่ยอมเข้าห้อง เหมือนมีเจตนาทำให้องค์ประชุมล่ม ทั้งที่ ส.ส.ของพรรคฝ่ายค้านในอยู่ในห้องประชุมครบ และพร้อมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่ ส.ว.บางคนไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม จนทำให้องค์ประชุมล่มลงไป ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ที่รัฐบาลเสนอขึ้นมาเองในฐานะกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปแต่กลับปล่อยให้การประชุมเป็นภาระของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งนี้ มีการอ่าน พ.ร.ฎ.ปิดสมัยประชุมแล้ว ดังนั้น ต้องรอนำเรื่องนี้ไปพิจารณาในสมัยสามัญซึ่งต้องรออีก 2 เดือน เรารู้สึกผิดหวังต่อการทำหน้าที่ของรัฐสภามาก อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกหาก พ.ร.บ.ประชามติฉบับนี้ไม่ผ่านการพิจารณาในวาระ 3
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราไม่คิดว่าการประชุมจะจบลงแบบนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ามีผู้ที่อยู่ในห้องประชุมแต่ไม่ยอมลงชื่อเป็นองค์ประชุม และอยู่นอกห้องประชุมแต่ไม่ยอมเป็นองค์ประชุม ทำให้กฎหมายประชามติที่เราพยายามผลักดันเพื่อมาแก้ปัญหาต้องรอไปอีก ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายปฏิรูปที่เสนอโดยรัฐบาล จึงเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล ทั้งยังเป็นการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ผู้สนองพระบรมราชโองการต้องรับผิดชอบ เป็นการกระทำมิบังควร ตนจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับผิดชอบ
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งตอกย้ำให้เราเห็นว่าการมีสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ได้มากจากพี่น้องประชาชน แต่มาจากผู้มีอำนาจจึงมุ่งเน้นทำตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ ไม่ใช่ทำตามที่ประชาชนต้องการ ไม่ได้ไขข้อข้องใจให้พี่น้องประชาชนในเรื่องที่มีปัญหา ทั้งนี้ รัฐบาลไปขอพระบรมราชโองการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญแต่สุดท้ายองค์ประชุมก็ล่ม แสดงให้เห็นว่า ส.ว. และ ส.ส.ซีกรัฐบาลทำตามใจชอบ ดังนั้น รัฐบาลและ ส.ว.ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น การมีวุฒิสภาแบบนี้ไม่รู้ประเทศจะมีไปทำไมฝากให้พิจารณาตัวเองด้วย
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เจตนาต้องการเตะถ่วง และขัดขวางไม่ให้มีช่องทางในการทำประชามติเพื่อให้มี ส.ส.ร. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ท่านอ้างมาตลอดว่าต้องไปฟังเสียงประชาชนก่อน เป็นการเล่นกล เล่นปาหี่ ลุแก่อำนาจ ขอเตือน ส.ว. และ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้ต้องไปอีก ประชาชนกำลังจะหมดความอดทน และการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ และ ส.ว.จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะทั้งปัญหาโควิด และเศรษฐกิจท่านก็แก้ไม่ได้ ถ้าท่านยังเป็นแบบนี้อีก ตนคิดว่าคงต้องขับไล่รัฐบาล และ ส.ว.
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดึ้นต้องขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ที่พยายามไกล่เกลี่ย แต่ทาง ส.ว.มีท่าทีบ่ายเบี่ยง ไม่รับ สุดท้ายแม้ประธานขอให้ประชุมต่อ ถ้าไม่ไหวค่อยเลิก พอเข้าห้องประชุม ส.ว.ก็เลิกจริงๆ แสดงให้เห็นว่าเขากลัวการถามประชาชนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เลยพยายามหนี ซึ่งทางเดียวที่หนีได้ก็คือการพยายามทำให้ พ.ร.บ.ประชามติช้าออกไปให้ได้มากที่สุด ถ้าทำให้กฎหมายตกไปได้ก็คงทำไปแล้ว ดังนั้นตนขอประณามอีกเสียง