หมอ พยาบาล บุคลกรทางการแพทย์ กำลังลุยฉีดวัคซีนให้พี่น้องประชาชน เพื่อความปลอดภัยและพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
แต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ผู้สมควรได้รับการสถาปนาเป็น “บิดาแห่งความพ่ายแพ้”ในระบอบประชาธิปไตย
ด้วยผลงานชิ้นโบว์แดงการเลือกตั้ง อบจ. ที่แพ้แบบแลนด์สไลด์ ตามติดด้วยการพ่ายหมดรูป คาสนามเลือกตั้งเทศบาล แม้จะบอกว่าก้าวไกลได้มา 10 กว่าที่ แต่ไม่ยอมเฉลยว่าเก้าอี้ไหน
บุคคลผู้แพ้แล้วแพ้อีก “คนนี้” ไม่เคยล้มเลิกความพยายาม ที่จะ “ป่วน” วงการสาธารณสุขไทย
ล่าสุดกล่าวหาว่า มีวัคซีนค้างสต็อกกว่า 1 ล้านโดส ยังไม่ได้ฉีด แสดงว่าไม่มีประสิทธิภาพ
ไม่ทราบว่า "ธนาธร" ไปอยู่ไหนมา ไม่ยอมหรือจงใจไม่ รับฟังข่าวสารเสียบ้าง
“หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สธ. ให้ข้อมูลเรื่องนี้แบบวันเว้นวันมาตลอด
ข้อเท็จจริงคือ ไม่มีอะไรค้างสต็อก แผนกระจายวัคซีนของ สธ. เปิดเผย ชัดเจน ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการ
ทุกสิ่งที่ “นายอนุทิน” ทำเรื่อง“วัคซีน” ผลงานมีให้เห็นเป็นรูปธรรม
เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ความจริง ขีดฆ่าทุก “ความเท็จ” ที่ออกจากปากของ “ทอน”
“เสี่ยหนู” รวมใจ หมอ พยาบาล บุคลากรการแพทย์ เป็น “หนึ่งเดียว”ภายใต้ทีมสาธารณสุข
ท้าทายให้ฉีดวัคซีน 1 ขวดจากเดิม 10 เข็ม ให้ได้ 12 เข็ม เพราะวัคซีน 1 ขวด จะมีส่วนเกิน 30% เพื่อเผื่อเหลือเผื่อขาด หากมีความเชี่ยวชาญ มีความแม่นยำ จะฉีดได้จำนวนเข็มที่มากขึ้น
หมอ พยาบาล ก็เอาด้วย เพราะการฉีดจะครอบคลุมจำนวนประชากรได้มากขึ้น
นั้นหมายความว่า คนไทยจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และประหยัดงบประมาณให้ประเทศชาติได้เป็นหลักพันล้าน
ขณะที่การผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าในไทย ก็เดินหน้าไปด้วยความราบรื่น
ประธานบริษัทแอสตร้าเซเนก้า ถึงกับออกปากว่า บริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ ผลิตวัคซีนได้ตามมาตรฐาน ได้ผลที่ดีเยี่ยมเกินคาดหมาย
นั่นคือ “เหตุผล” ที่ทำไม แอสต้าเซเนก้า จึง “เลือก” สยามไบโอไซแอนซ์
วันนี้ “นายอนุทิน” จึงพูดอย่างเต็มปากว่า “เรายืนได้ด้วยขาตัวเอง”
ไทยมีทั้งวัคซีนที่สั่งซื้อไว้ จะเข้ามาในเดือน เม.ย.
เรายังผลิตวัคซีนเองได้ภายในประเทศ ด้วยมาตรฐานระดับโลก และกำลังจะเริ่มทดลองผลิตวัคซีนโควิด 19 ในสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์
การควบคุมการระบาด ไทยทำได้ดีติดอันดับโลก ผลงานการป้องกันและควบคุมโควิด 19 ของ “ทัพสาธารณสุข” เป็นที่ประจักษ์
“ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ”ควรจะหยุดบั่นทอน” วงการสาธารณสุขไทยได้แล้ว