“วิษณุ” แจง ประมวลจริยธรรม “ขรก.การเมือง” แตกต่างจากลงโทษ ส.ส. เปรียบมาตรฐานชี้วัดความผิดอะไรทำได้หรือไม่ได้ ก่อนส่งไปจัดการตาม กม.ที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.40 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสาระสำคัญภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา มี พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรมเป็นกฎหมายที่รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งกำหนดว่า ให้มีคณะกรรมการมาตรฐานจริยธรรมเพื่อกำกับกับสอดส่องให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภทไปจัดทำประมวลจริยธรรมของตัวเองขึ้น ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งดูแลข้าราชการพลเรือนประมาณ 3 แสนคน ไปจัดทำประมวลจริยธรรมของข้าราชการพลเรือนซึ่งขณะนี้ยังไม่เสร็จ ยกตัวอย่างครู ก็ต้องไปทำประมวลจริยธรรมครู ซึ่งขณะนี้กำลังทำอยู่ และทั้งหมดที่กำลังทำอยู่จะต้องเสร็จในวันที่ 6 เมษายน 2564
นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนข้าราชการการเมือง ครม.จะเป็นผู้จัดทำประมวลจริยธรรม โดย ครม.ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ทำ ซึ่งฉบับเมื่อวันที่ 30 มีนาคม เป็นของข้าราชการการเมือง ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทำแล้วเสร็จ โดยข้าราชการการเมือง คือ ผู้มีตำแหน่งตามที่กฎหมายระเบียบข้าราชการการเมืองกำหนดไว้
นายวิษณุ กล่าวว่า ไล่ตั้งแต่นายกฯ รองนายกฯ จนถึงเลขานุการรัฐมนตรี และผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่ไม่รวม ส.ส.และ ส.ว. เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง แต่ ส.ส.และ ส.ว.มีมาตรฐานจริยธรรมต่างหาก ซึ่งรัฐธรรมนูญแยกออกมา โดยการกำหนดให้องค์กรอิสระทั้งหลาย รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้จัดทำเพื่อใช้เป็นประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระทั้งหลาย เช่น กกต. ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ซึ่งรวมถึง ครม. ส.ส. และ ส.ว.ด้วย โดยจัดทำเสร็จมาและประกาศใช้แล้วมา 2 ปี
เมื่อถามว่า โทษของข้าราชการการเมืองเหมือนกับ ส.ส.หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เหมือน เพราะจะไล่ไปตามกฎหมายของตัวเอง ประมวลจริยธรรมจะบอกแค่เรื่องมาตรฐานในความประพฤติ และปฏิบัติเท่านั้นว่าพึงกระทำอะไร และพึงละเว้นอะไร แต่กรณีที่มีการฝ่าฝืนเกิดขึ้นจะไล่ไปใช้กฎหมายต่างๆ เช่น ข้าราชการการเมืองจะมีจริยธรรมตามประมวลที่เข้า ครม.เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา
นายวิษณุ กล่าวว่า แต่หากฝ่าฝืนต้องไปดูว่าผู้กระทำฝ่าฝืนมีตำแหน่งอะไร เช่น เลขานุการรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรี กรณีนี้ใช้วิธีปรับ ครม.เอาออก และตั้งคณะกรรมการสอบ เป็นการไล่ไปใช้กฎหมายอื่น ส่วนความผิดอาญาก็ไปที่ ป.ป.ช. หรือไปที่ตำรวจ ดังนั้น อย่ามาดูว่าไม่เห็นบอกว่าผิดอะไรแล้วทำอย่างไร แต่บอกว่าทำอย่างไรเรียกว่าผิด แค่นี้ก็มีสะพานจะเดินอีกเยอะแล้ว ส่วนข้อห้ามตามร่างประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง ขอให้ไปดูรายละเอียด
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า มีตามรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ก็เลิกไปแล้ว