“หมอสมศรี-หมอประกิต” ผนึก 25 นักวิชาการตั้งป้อมค้าน ครม.ปรับโครงสร้างภาษียาสูบถอยหลังลงคลอง ชง 7 ข้อเรียกร้องภาษียาสูบไทยต้องไม่ทำสุขภาพคนไทยเสียหาย แนะจัดเก็บภาษีทั้งปริมาณ-มูลค่าขายปลีก 32-35% ของราคาขายปลีก ราคาต้องไม่ถูกลง
ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ให้ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในการประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.) แทนภาษียาสูบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ ครม. พิจารณาข้อเสนอการปรับโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ ดังนี้ 1. โครงสร้างภาษียาสูบที่จะปรับใหม่ ต้องส่งผลดีต่อทั้งการจัดเก็บภาษีของรัฐ และทำให้การสูบบุหรี่ลดลง ตามหลักการที่ระบุไว้ในอนุสัญญาควบคุมยาสูบองค์การอนามัยโลก ที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคี 2. ต้องไม่ทำให้ภาระภาษีของสินค้ายาสูบโดยรวมลดลง เพราะภาระภาษีที่ลดลงจะทำให้คนสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น 3. โครงสร้างภาษีใหม่ควรจะประกอบด้วย ส่วนที่เก็บตามปริมาณ และส่วนที่เก็บตามมูลค่าราคาขายปลีก 4. โครงสร้างอัตราภาษีที่เก็บตามมูลค่าควรจะมีเพียงอัตราเดียว เพื่อป้องกันการลดราคาของบริษัทบุหรี่ ที่สำคัญเพื่อให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะนำของอนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก
ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรีกล่าวต่อว่า 5. ภาษีที่คิดตามมูลค่าราคาขายปลีก ควรจะกำหนดเป็นอัตราเดียว เช่น 32-35% ของราคาขายปลีก 6. โครงสร้างภาษีที่คิดตามปริมาณ ที่ปัจจุบันเก็บ 1.2 บาทต่อมวน ควรจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 หรือ 1.4 บาทต่อมวน และปรับขึ้นทุก 2 ปี ตามอัตราเงินเฟ้อ 7. ควรจะมีการกำหนดแผนระยะยาวที่จะขึ้นภาษียาเส้น เพื่อลดความแตกต่างด้านราคาระหว่างบุหรี่ซิกาแรต และยาเส้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการที่ผู้สูบบุหรี่จะหันมาสูบยาเส้นที่มีราคาถูกกว่า ทั้งนี้ ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การปรับโครงสร้างภาษียาสูบครั้งนี้ รัฐบาลจะไม่ถูกมองในสายตาของนานาประเทศว่าเดินถอยหลังด้านนโยบายภาษียาสูบ ซึ่งประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างได้ยกเลิกอัตราภาษีที่มีหลายระดับแล้ว
ด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า โครงสร้างภาษียาสูบปัจจุบัน ซึ่งเป็นการจัดทำโดยกรมสรรพามิต ได้สร้างผลกระทบในทางลบ ทั้งทางด้านรายได้จากการจัดเก็บภาษีของรัฐบาล เงินนำส่งรัฐจากกำไรของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ลดลง ส่งผลกระทบต่อชาวไร่ยาสูบที่ถูกลดโควตารับซื้อใบยาจาก ยสท.ทำให้เสียเปรียบบริษัทยาสูบต่างชาติ และที่สำคัญไม่ได้ทำให้การบริโภคยาสูบลดลง ดังนั้น การปรับโครงสร้างภาษียาสูบครั้งใหม่นี้ รัฐบาลควรจะเปิดกว้างให้นักวิชาการเกี่ยวกับยาสูบเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดทำโครงสร้างภาษีใหม่ เพื่อให้เกิดความรอบด้าน และเป็นประโยชน์สูงสุดของคนไทย