รองเลขาฯ กกต.แจงพบชื่อคนตายโผล่บัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเทศบาล เหตุเจ้าบ้านไม่แจ้งนายทะเบียนขอจำหน่ายชื่อออก มั่นใจไม่เป็นช่องทำให้เกิดการสวมสิทธิได้ง่าย
วันนี้ (27 มี.ค.) นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการ กกต.กล่าวกรณีพบชื่อคนตายปรากฏในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเทศบาล ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการที่เจ้าบ้านไม่ได้มีการไปแจ้งจำหน่ายชื่อคนตายออกจากทะเบียนบ้าน จึงยังทำให้ชื่อค้างอยู่ และเมื่อมีการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งทุกครั้ง ก็จะปรากฏชื่อบุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ในบัญชี
“รายที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เสียชีวิตมา 20 ปีแล้ว ก็พบว่าเป็นการเสียชีวิตนอกท้องที่ที่คนตายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และเวลานั้นระบบฐานข้อมูลทะเบียนยังไม่ใช้การออนไลน์ เมื่อเจ้าบ้านไม่นำใบมรณบัตรไปแจ้ง เพื่อขอจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านที่คนตายมีชื่ออยู่ ก็ทำให้ชื่อค้างอยู่อย่างนั้น ดังนั้น การจะไปบอกว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ทะเบียนคงไม่ได้ เพราะเขาก็ไม่รู้ถ้าเจ้าบ้านไม่ไปแจ้งขอจำหน่ายชื่อออก”
นายกิตติพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ไม่สามารถเพิ่มหรือถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้แล้ว เนื่องจากพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เพียงในวันเลือกตั้ง เจ้าบ้านนำหลักฐานใบมรณบัตร ไปแจ้งต่อกรรมการประจำหน่วย ซึ่งก็จะมีการขีดฆ่าชื่อคนตายออกจากบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เลย แต่ทางที่ดีที่สุดเจ้าบ้านควรนำหลักฐานไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทะเบียนเพื่อขอจำหน่ายชื่อคนตายออกจากทะเบียนบ้าน เพื่อที่การเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป จะไม่ปรากฏชื่อคนตายในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มองว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดการทุจริตสวมสิทธิได้ง่าย เพราะเวลาไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กรรมการประจำหน่วย จะมีวิธีการตรวจสอบ หลักฐานที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้แสดงตนอยู่พอสมควร การทุจริตโดยการสวมสิทธิจึงทำได้ค่อนข้างยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการพบชื่อคนตาย คือ นายสวง จุ้ยม่วงศรี เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งลำดับที่ 438 ในหน่วยเลือกตั้งที่ 18 โรงเรียนทองพูลอุทิศ ม.2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี และ นายศิริชัย จุ้ยม่วงศรี ที่ถูกระบุว่า เสียชีวิตมากว่า 20 ปี แต่กลับมีชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ในลำดับที่ 345 โดยในรายของนายศิริชัย พบหลักฐานการตายที่เขตบางเขน เป็นการแจ้งตายต่างท้องที่ที่นายศิริชัยมีชื่ออยู่ทะเบียนบ้าน ซึ่งทั้งสองรายเจ้าบ้านไม่มาจำหน่ายชื่อ ทำให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก็มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง